ลงทุนให้สนุกได้ไหม?
วิธีเปลี่ยนความชอบส่วนตัวให้กลายเป็นพอร์ตการลงทุน
เมื่อพูดถึงการลงทุน หลายคนอาจนึกถึงภาพที่ต้องนั่งจ้องจอคอมพิวเตอร์และกราฟต่างๆ ทั้งยังต้องอ่านข่าว อ่านบทวิเคราะห์มากมาย และยังต้องทำความเข้าใจกับศัพท์เทคนิคต่างๆ เช่น “P/E ratio” หรือ “Compound Annual Growth Rate” ฟังดูแล้วซับซ้อนและน่าเบื่อใช่ไหม?
แต่ความจริงแล้ว การลงทุนไม่จำเป็นต้องน่าเบื่อขนาดนั้น มันสามารถ “สนุก” ได้อย่างไม่น่าเชื่อ เคล็ดลับก็คือ การเปลี่ยนความชอบหรือความหลงใหลของคุณให้กลายเป็นพอร์ตการลงทุนที่ทำกำไรได้จริง ถ้าทำได้ คุณจะยิ่งสนุกกับมันมากขึ้นไปอีก
เริ่มต้นการลงทุนด้วย Passion
ถ้าคุณสามารถนำความชอบหรือความหลงใหลในเทคโนโลยีใหม่ ๆ แฟชั่นต่าง ๆ เทรนด์กาแฟพิเศษ หรือแม้กระทั่งเกมที่เล่นอยู่ทุกวัน มาผนวกเข้ากับกลยุทธ์การลงทุนของคุณได้ล่ะ? น่าสนใจใช่ไหม?
จุดสำคัญอยู่ที่การใช้ความสนใจของคุณให้เป็นประโยชน์ในการตัดสินใจลงทุน เพราะเมื่อคุณสนใจในสิ่งใดสิ่งหนึ่งมาก ๆ คุณย่อมมีความเข้าใจที่ลึกซึ้งในสิ่งนั้น และสามารถสร้างโอกาสการเติบโตที่อาจเกิดขึ้นได้เหนือกว่าคนทั่วไป นี่ล่ะคือ Passion ที่แท้จริง
การทำให้การลงทุนเป็นเรื่องสนุก ไม่ได้หมายถึงการโฟกัสแค่เรื่องกำไรเท่านั้น แต่คือการมีส่วนร่วมกับการลงทุนนั้นอย่างแท้จริง การที่พอร์ตโฟลิโอของคุณสะท้อนความสนใจส่วนตัว จะทำให้การติดตามตลาดกลายเป็นสิ่งที่คุณรอคอย แทนที่จะเป็นเหมือนหน้าที่ต้องทำ ที่น่าเบื่อ
มาเริ่มกันเลย!
1. ค้นหา Niche หรือสิ่งที่คุณหลงใหลแบบจริงจัง
คุณหลงใหลในเทคโนโลยีใหม่ ๆ หรือเปล่า? หรือคุณคือ Gamer ที่สามารถจับสัญญาณของเกมยอดฮิตถัดไปได้ก่อนใคร? หรืออาจจะเป็นผู้ที่หลงใหลในแฟชั่นที่รู้ว่าดีไซน์ไหนจะมาแรงในฤดูกาลหน้า? ไม่ว่าความสนใจของคุณจะเป็นอะไร มักจะมีตลาดสำหรับสิ่งนั้นอยู่เสมอ และบ่อยครั้งที่บริษัทที่มีนวัตกรรมสูงและเติบโตเร็ว มักจะอยู่ใน Niche ที่คุณสนใจอยู่แล้ว
ตัวอย่างเช่น
- สาย Gamers อาจเลือกลงทุนในบริษัทที่เป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีสำหรับเกม เช่น NVIDIA หรือ AMD รวมถึงธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ eSports
- สายรองเท้า Sneaker ซึ่งนอกจากจะตามหา Jordan หรือ On รุ่นใหม่ล่าสุด คุณอาจศึกษาการลงทุนในหุ้นบริษัทอย่าง Nike, Adidas, Onon, Deck หรือแม้กระทั่งแพลตฟอร์มซื้อขายสนีกเกอร์แบบ Resale อย่าง StockX
- Coffee Lovers ซึ่งถ้าคุณหลงใหลในการดื่มกาแฟทุกวัน ลองสำรวจหุ้นของ Starbucks หรือกองทุนที่เน้นการลงทุนในกาแฟ (Coffee-related ETFs) หรือแม้กระทั่งบริษัทที่สร้างเทคโนโลยีการชงกาแฟที่ล้ำสมัยหรือการทำฟาร์มกาแฟที่ยั่งยืน
2. มองการทำ Research ให้เหมือนการเล่นสนุก
สิ่งนี้จะทำให้การลงทุนของคุณน่าสนใจขึ้นมาก การ Research ไม่ได้หมายความว่าคุณต้องเลื่อนหน้าจอผ่านรายงานทางการเงินที่ยาวเหยียดเสมอไป แต่มันอาจหมายถึงการอ่านโพสต์ใน Reddit ตาม influencers ในวงการ หรือติดตามรีวิวจากผู้ใช้งานจริงในคอมมูนิตี้ที่คุณสนใจ ซึ่งมีรายละเอียดที่คุณสามารถนำไปใช้วิเคราะห์ได้ ไม่แพ้รายงานทางการเงิน
ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณอยู่ในวงการ Anime หรือซีรีส์เกาหลี การติดตามและได้เห็นกระแสความนิยมของซีรีส์ใหม่ ๆ อาจช่วยให้คุณมองเห็นโอกาสในการลงทุนในหุ้นบันเทิง หรือบริการ Streaming ที่กำลังจะซื้อลิขสิทธิ์ เช่น Netflix, Disney หรือถ้าคุณติดตาม Youtuber ด้านเทคโนโลยี คุณอาจจะได้รับรู้ถึงเทรนด์ VR หรือ AI ใหม่ ๆ ก่อนที่มันจะเป็นกระแสหลักที่คนพูดถึง
3. เริ่มสร้างพอร์ตโฟลิโอที่สะท้อนความชอบของคุณ
เมื่อคุณเข้าใจว่าตัวเองหลงใหลในอะไรแล้ว ก็ถึงเวลาที่ต้องนำสิ่งนั้นมาใช้ในการลงทุน ผสมผสานระหว่างสินทรัพย์ เช่น หุ้น กองทุน หรือแม้กระทั่งการลงทุนทางเลือกที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่คุณสนใจ สิ่งที่ดีที่สุดคือ คุณสามารถสร้างพอร์ตโฟลิโอที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวตามความชอบของคุณได้เลย
ตัวอย่างพอร์ตตามสไตล์:
- พอร์ตสาย Geek ด้านเทคโนโลยี อาจเลือกลงทุนในหุ้นเทคโนโลยีชั้นนำอย่าง Apple, Microsoft, NVIDIA รวมถึงบริษัทเล็ก ๆ ที่สร้าง Software หรือ Hardware ที่ก้าวล้ำ
- พอร์ตนักลงทุนสายบันเทิง อาจเลือกลงทุนในหุ้นแพลตฟอร์มอย่าง Netflix, Disney, Spotify หรือแม้กระทั่งบริการ Streaming ที่เน้นคอนเทนต์เฉพาะกลุ่ม
- พอร์ตสายกีฬาตัวพ่อ อาจลองมองหาการลงทุนในผู้นำด้านอุปกรณ์กีฬา หรือแฟชั่นกีฬาล้ำสมัย อย่าง Nike, Under Armour, Lululemon หรือแม้กระทั่งบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการเดิมพันกีฬา (Sports Betting Companies)
4. ทำให้มันสนุกและทำกำไรได้จริง
การลงทุนด้วย Passion ไม่ได้หมายความว่าคุณจะละทิ้งกลยุทธ์ที่ดีไป คุณยังต้องคำนึงถึงการกระจายความเสี่ยง (Diversification) และการบริหารความเสี่ยง (Risk Management) เหมือนกับนักลงทุนคนอื่น ซึ่งการได้มีความสัมพันธ์ส่วนตัวกับสิ่งที่คุณลงทุนจะช่วยทำให้กระบวนการทั้งหมดสนุกขึ้นอย่างมาก
เคล็ดลับ: บริษัทที่คุณชอบติดตามบ่อย ๆ มักจะให้โอกาสในการลงทุนที่ดีเสมอ ไม่ใช่เพราะความหลงใหลแบบไม่ลืมหูลืมตา แต่เป็นเพราะคุณเข้าใจผลิตภัณฑ์ ตำแหน่งทางการตลาด และความนิยมทางวัฒนธรรมของบริษัทนั้น ๆ ได้อย่างลึกซึ้งกว่าคนทั่วไป เรียกได้ว่าชอบอย่างรู้ลึกรู้จริง
5. อย่าเพิ่งคาดหวังผลตอบแทนเกินไป
แน่นอนว่าไม่ใช่ทุกความชอบจะกลายเป็นโอกาสการลงทุนที่ทำกำไรได้ บางครั้งสิ่งที่คุณหลงใหลอย่างการสะสมแผ่นเสียง Vinyl อาจไม่ใช่ตลาดที่เติบโตเร็วพอที่จะสร้างผลตอบแทนที่น่าพอใจ
ประเด็นสำคัญไม่ใช่การพยายามเปลี่ยนทุกความชอบให้เป็นการลงทุน แต่คือการค้นหาจุดที่ความสนใจและโอกาสสามารถเดินไปพร้อมกันได้อย่างลงตัว สนับสนุนซึ่งกันและกัน และทำให้ทุกอย่างสนุกยิ่งขึ้น
สรุป และย้ำอีกครั้ง
การลงทุนไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องที่เคร่งเครียดหรือซับซ้อนเสมอไป การนำ Passion ของคุณมาใช้ในการลงทุนสามารถทำให้มันกลายเป็นการผจญภัยที่น่าสนุก และที่สำคัญคือมันสามารถสร้างโอกาสรับผลตอบแทนได้ตามจังหวะในแบบที่เรารู้จักตัวตนของสิ่ง ๆ นั้นได้อย่างแท้จริง
ไม่ว่าคุณชอบอะไร ลองเจาะลึกสิ่งที่คุณหลงใหล ทำ Research อย่างจริงจัง และเปลี่ยนสิ่งที่คุณรักให้กลายเป็นพอร์ตการลงทุนที่สนุกและสามารถสร้างโอกาสทำกำไรได้ มาลองดูกัน!
??สนใจเปิดบัญชีผ่านแอปพลิเคชั่น KTAM Smart Trade ได้ที่ https://bit.ly/KTSTSignIn
คำเตือน : ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน
ผู้เขียน : เขมรัฐ ทรงอยู่
รองผู้อำนวยการ ฝ่ายลงทุนต่างประเทศ
บลจ.กรุงไทย