จาก “Impulse Spending” สู่ “Conscious Investing”
ปรับพฤติกรรมทางการเงินเพื่ออนาคตที่มั่นคง
เชื่อว่าเราหลายคนคงเคยผ่านกันมาแล้วกับการเลื่อนไถ App Shopping หรือเดินผ่านร้านค้าที่จัดโชว์สินค้าอย่างสวยงาม แล้วก่อนที่เราจะรู้ตัว บัตรเครดิต หรือ e-Wallet ของเราก็ถูกตัดเงินไปเรียบร้อย บางครั้งเพื่อแลกกับ Gadget ราคาแพง หรือเสื้อผ้าที่มองผ่านแล้วถูกใจ แต่ท้ายที่สุดแล้ว ก็จะไปกองอยู่ในตู้โดยที่ไม่เคยได้ใช้อย่างจริงจัง
“Impulse Spending“ หรือการใช้จ่ายแบบทันทีทันใด ขาดสติในบางครั้ง เหมือนกับมีอีกตัวตนที่ชอบความตื่นเต้นอยู่ในสมองของเรา แล้วคอยกระซิบว่า “ซื้อไปเถอะ เธอคู่ควรกับมันนะ YOLO (You Only Live Once)” และแน่นอนว่าความพึงพอใจชั่วคราวนั้นให้ จะความรู้สึกดีอยู่พักหนึ่ง…
เรื่องที่น่าสนใจอยู่ตรงนี้!
ระบบการทำงานในสมองที่ทำให้เราตัดสินใจใช้จ่ายแบบฉับพลันนั้น สามารถปรับเปลี่ยนให้กลายเป็นการสร้างความมั่นคงระยะยาว ผ่านกระบวนการคิดที่เรียกว่า “Conscious Investing” ได้ และที่สำคัญคือ การลงทุนที่ดีอย่างสม่ำเสมอ ก็สามารถสร้างผลตอบแทนที่น่าตื่นเต้นและเพิ่มพูนขึ้นเรื่อย ๆ แตกต่างจากการซื้อสินค้าที่อาจเสื่อมค่าไปอย่างรวดเร็ว แล้วเราจะทำยังไงให้เกิดการเปลี่ยนแปลงนี้ได้? มาดูกัน
ขั้นตอนที่ 1: ทำความเข้าใจก่อน ว่าทำไมเราถึงใช้จ่ายแบบไม่มีเหตุผล
ก่อนอื่น ต้องเข้าใจว่าการใช้จ่ายแบบ Impulse Spending นั้น ไม่ได้เกิดจากการที่คุณขาดระเบียบวินัยเพียงอย่างเดียว แต่เป็นเรื่องของ “ศาสตร์การตลาด” ที่บริษัทผู้ขายต่าง ๆ ใช้กลยุทธ์เทคนิค ที่ทำให้เรารู้สึกว่าต้องซื้อสิ่งของชิ้นนี้ “ตอนนี้เท่านั้น” ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบของ Flash Sales, Limited-Time Offers รวมถึงการจัดโชว์สินค้าที่เตะตา น่าดึงดูด ทั้งหมดนี้ คือการกระตุ้นให้สมองของเราหลั่ง Dopamine หรือฮอร์โมนแห่งความพึงพอใจออกมาอย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้ ยังมีเรื่องของ Emotional Spending หรือการใช้จ่ายเมื่อเรารู้สึกเบื่อ เครียด หรือเศร้า เข้ามากระตุ้นเราจากภายในอีกทางหนึ่ง เหมือนเป็นการปลอบใจตัวเองแบบเร่งด่วน ทำให้เราตัดสินใจควักเงินซื้อสิ่งของต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น
แต่จะเป็นอย่างไรถ้าเราเปลี่ยนการให้รางวัลตัวเองจากการใช้จ่าย มาเป็นการสร้างสิ่งที่เติบโตขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง เช่น การลงทุนที่เพิ่มมูลค่าเมื่อเวลาผ่านไป
ขั้นตอนที่ 2: จากความพึงพอใจระยะสั้นสู่การเติบโตระยะยาว
การเปลี่ยนจาก Impulse Spending ไปสู่ Conscious Investing ไม่ใช่การตัดความสุขทั้งหมดออกไปจากชีวิต แต่เป็นการทำให้เงินของคุณทำงานให้กับคุณ แทนที่จะปล่อยให้มันหายไปกับของที่คุณอาจจะไม่ได้ใช้งานคุ้มค่าจริง
มุมมองใหม่ คือ การลงทุนสามารถเป็นเรื่องที่ตื่นเต้นและท้าทายได้ โดยเฉพาะเมื่อคุณเห็นพอร์ตการลงทุนของคุณเติบโตขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป แทนที่จะเปิดแอปพลิเคชันธนาคารแล้วสงสัยว่าทำไมยอดเงินถึงลดลง ความพอใจจะเกิดได้ทั้งจากการเห็นตัวเลข (ความมั่งคั่ง) ที่เติบโตขึ้น หรือจากภาพในหัวว่าเรากำลังจะซื้อของที่ใหญ่และแพงกว่าเดิมได้นะ
ขั้นตอนที่ 3: ปรับมุมมองให้ถูกต้อง (Mindset Shift)
การเปลี่ยนแปลงนี้เริ่มต้นจากการปรับมุมมองของคุณ ให้คิดว่าเงินของคุณเปรียบเหมือนพลังงานที่คุณสามารถทำให้มัน “สูญหายไป” หรือ “เติบโตขึ้น” ได้ ขึ้นอยู่กับวิธีที่คุณใช้มัน
เมื่อคุณใช้จ่ายแบบไม่คิดหน้าคิดหลัง เงินจะหายไปทันที ตัวคุณจะขาดพลัง ไม่สามารถไปทำสิ่งอื่นที่แตกต่างจากเดิมได้ แต่หากคุณลงทุนอย่างรอบคอบ พลังของคุณก็จะมีโอกาสเติบโตและเพิ่มมูลค่า คุณอาจลองตั้งคำถามกับตัวเองว่า “ฉันต้องการความสุขแบบรวดเร็ว หรืออยากเริ่มต้นสร้างสิ่งที่มีคุณค่าและยั่งยืน?” นี่ไม่ใช่การบอกให้คุณเลิกใช้จ่ายกับสิ่งที่คุณชอบ แต่เป็นการสร้างสมดุลระหว่างความพึงพอใจในวันนี้ กับผลตอบแทนในอนาคต
ขั้นตอนที่ 4: เริ่มต้นสร้างแผนการลงทุนที่น่าสนใจและสนุก
ในช่วงแรกต้องยอมรับว่า คำว่า Budgeting (การแบ่งสรรปันส่วนเงิน) และ Investing (การลงทุน) อาจฟังดูน่าเบื่อ แต่มันเป็นสิ่งจำเป็นของการเริ่มต้น เราอยากให้คุณลบภาพของการที่ต้องกรอกตัวเลขทำบัญชี หรือการต้องคอยมองหาวิธีการจำกัดการใช้จ่าย ในความจริงแล้วถ้าคุณบอกตัวเองได้ว่า “ถึงเวลาที่ต้องเริ่มลงทุนแล้วนะ“ คุณจะรู้ได้ด้วยตัวเองทันที ว่าจะเอาเงินส่วนไหนมาลงทุนได้ และมันสามารถทำให้การลงทุนเป็นเรื่องตื่นเต้นได้ตั้งแต่ต้น
สร้างเป้าหมายที่ทำให้คุณรู้สึกตื่นเต้น ไม่ว่าจะเป็น Retire Early (เกษียณไว เพื่อใช้ชีวิต), Travel the World (เที่ยวให้รอบโลก ก่อนไปไม่ไหว) ไปจนถึงการสร้างมรดกเพื่อคนข้างหลัง เขียนเป้าหมายเหล่านั้นลงไป และเตือนตัวเองให้บ่อย จากนั้นค่อยวางแผนการลงทุนให้สอดคล้องกับสิ่งที่คุณต้องการ
อย่าปล่อยให้ตัวเองตกอยู่ในสถานการณ์ Analysis Paralysis (“วิเคราะห์จนมึนตึงไปหมด”) การลงทุนไม่จำเป็นต้องซับซ้อน คุณสามารถเริ่มต้นจากกองทุน ETFs, Index Funds หรือแม้แต่ Thematic Investing ที่เน้นไปในอุตสาหกรรมที่คุณสนใจ เช่น Tech, Green Energy, หรือ Healthcare ซึ่งทุกวันนี้ คุณสามารถเริ่มลงทุนได้ ด้วยการกดหน้าจอเพียงไม่กี่ครั้ง จากแอปพลิเคชั่นบนมือถือของคุณ
ขั้นตอนที่ 5: ทำให้การลงทุนอย่างมีสติกลายเป็นนิสัย (Habit Formation)
การใช้จ่ายแบบ Impulse Spending คือผลลัพธ์ของนิสัยส่วนที่ไม่ดี (ตัวที่ยุข้างหูให้เราซื้อ) แต่ไม่ต้องกังวลไป เพราะนิสัยส่วนที่ดีจะมีพลังที่เท่ากันเสมอ เริ่มจากการ “Automate การลงทุน” หรือทำให้ตัวเองเผลอลงทุนจนเคยชิน เช่น การตั้งค่าให้เงินส่วนหนึ่งของคุณถูกโอนเข้าบัญชีลงทุน ก่อนที่จะถูกใช้จ่ายไปกับของที่ไม่จำเป็น
ชื่นชมตัวเองกับความสำเร็จเล็ก ๆ ทุกครั้งที่คุณได้ลงทุน แม้จะเป็นเพียงจำนวนเล็กน้อย เพราะเมื่อคุณกำลังสร้างอนาคตทางการเงินที่มั่นคง การเห็นความก้าวหน้าจะเป็นแรงจูงใจที่ทำให้คุณเดินหน้าต่อไปได้อย่างมั่นคง
ขั้นตอนที่ 6: จัดการกับ FOMO (Fear of Missing Out: การซื้อบ้าง เพราะใครๆ ก็ซื้อ)
เรากำลังอยู่ในยุคที่ FOMO มีอิทธิพลสูงมาก มีสินค้าผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ให้ซื้อทุกเดือน รวมถึงมีเทรนด์การใช้จ่ายรูปแบบใหม่ ๆ เกิดขึ้นทุกวัน แต่หากคิดไตร่ตรองดูแล้ว การพลาดโอกาสในการซื้อของอาจไม่ใช่เรื่องใหญ่ โดยเฉพาะหากเป็นสินค้าที่ฟุ่มเฟือย ขาดความจำเป็น การพลาดโอกาสในการสร้างความมั่งคั่งระยะยาวต่างหากที่สำคัญกว่า เพราะคนเรามักมีภาระทางการเงินที่เติบโตขึ้นตามอายุ และที่สำคัญ “เริ่มต้นก่อน โตเร็วกว่า”
ดังนั้น ทุกครั้งที่คุณรู้สึกอยากซื้ออะไรเพียงเพราะมันกำลังเป็นกระแส ให้ลองถามตัวเองอีกครั้งว่า “สิ่งนี้จะทำให้คุณเข้าใกล้เป้าหมายมากขึ้นไหม หรือแค่ทำให้รู้สึกดีเพียงชั่วคราว?” ถ้าคำตอบคืออย่างหลัง ก็แค่ปล่อยผ่านไปได้
ขั้นตอนที่ 7: เก็บเกี่ยวผลตอบแทน (Reaping the Rewards)
Conscious Investing ไม่ใช่การละทิ้งความสุขในปัจจุบัน แต่คือการเริ่มต้นสร้างรากฐานทางการเงินที่มั่นคงและยั่งยืน เพื่อให้คุณสามารถเพลิดเพลินกับความสุขที่แท้จริงในอนาคตได้อย่างเต็มที่
การลงทุนที่มีเป้าหมายและแผนการที่ชัดเจนจะทำให้คุณได้เห็นความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง ไม่เพียงแค่ตัวเลขที่เติบโตขึ้นในพอร์ตการลงทุนเท่านั้น แต่ยังเป็นอิสรภาพทางการเงินแบบใหม่ ๆ ที่ให้คุณสามารถเลือกใช้ชีวิตได้ตามที่คุณต้องการ และแตกต่างจากเดิม
เมื่อเวลาผ่านไป หากคุณมองย้อนกลับไปเห็นทุกการตัดสินใจลงทุนที่ทำอย่างมีสติ ผลลัพธ์ที่ได้ไม่ใช่แค่เพียงจำนวนเงินในพอร์ตการลงทุนที่เพิ่มขึ้น แต่คือโอกาสที่คุณสามารถเก็บเกี่ยวผลสำเร็จจากการลงทุนของคุณ และเลือกทำตามเป้าหมายในใจที่เคยตั้งไว้ได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการเงิน ไม่ว่าจะเป็นการเกษียณก่อนกำหนด ท่องเที่ยวรอบโลก หรือสร้างคุณค่าให้กับครอบครัวและสังคมได้เช่นกัน
บทส่งท้าย
ถ้าคุณอ่านจบแล้ว และอยากเริ่มต้นกับ conscious investing ไม่ต้องรีบนะ หรือต่อให้คุณเผลอช้อปปิ้งตามใจไปอีกครั้ง แล้วเกิดเริ่มเสียดายเงินจากของเหล่านั้น กลับมาอ่านเราอีกครั้งได้นะ เราอยู่ตรงนี้เสมอ
ผู้เขียน: เขมรัฐ ทรงอยู่
รองผู้อำนวยการ ฝ่ายลงทุนต่างประเทศ
บลจ.กรุงไทย
สนใจเปิดบัญชีผ่านแอปพลิเคชั่น KTAM Smart Trade ได้ที่ https://bit.ly/KTSTSignIn
คำเตือน : ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน