• X
  • ค้นหา
  • TH EN
  • Menu แนะนำ
    • NAV
    • ค้นหากองทุน
    • กองทุนแนะนำ
    • กองทุนผลงานดี
    • ตารางจ่ายเงินปันผล
    • วันหยุดกองทุน
    • ข่าว/บทวิเคราะห์
    • กลยุทธ์การลงทุน
    • กำหนดการและแบบฟอร์ม
    • โปรโมชั่น
    • ข้อมูลกองทุน
    • เปรียบเทียบกองทุน
    • KTAM Daily News
    • KTAM Edutainment
  • KTAM Smart Trade
  • PVD Online
  • Agent
  • หน้าแรก
  • เกี่ยวกับ KTAM
  • กองทุนรวม
  • กองทุน RMF/LTF/SSF/ThaiESG
  • กองทุน FIF/ETF
  • กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
  • กองทุนส่วนบุคคล
  • กองทุนโครงสร้างพื้นฐาน/รีทส์/อสังหาริมทรัพย์
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน)
  • Menu แนะนำ
    • NAV
    • ค้นหากองทุน
    • กองทุนแนะนำ
    • กองทุนผลงานดี
    • ตารางจ่ายเงินปันผล
    • วันหยุดกองทุน
    • ข่าว/บทวิเคราะห์
    • กลยุทธ์การลงทุน
    • กำหนดการและแบบฟอร์ม
    • โปรโมชั่น
    • ข้อมูลกองทุน
    • เปรียบเทียบกองทุน
    • KTAM Daily News
    • KTAM Edutainment
  • KTAM Smart Trade
  • PVD Online
  • Agent
TH : EN
  • หน้าแรก
  • เกี่ยวกับ KTAM
  • กองทุนรวม
  • กองทุน RMF/LTF/SSF/ThaiESG
  • กองทุน FIF/ETF
  • กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
  • กองทุนส่วนบุคคล
  • กองทุนโครงสร้างพื้นฐาน/รีทส์/อสังหาริมทรัพย์
  1. หน้าแรก
  2. KTAM Edutainment
  3. จัดพอร์ตให้มั่นคง..ด้วยกลยุทธ์ Core-Satellite

จัดพอร์ตให้มั่นคง..ด้วยกลยุทธ์ Core-Satellite

จัดพอร์ตให้มั่นคง..ด้วยกลยุทธ์ Core-Satellite
 
  -ในการเริ่มต้นวางแผนการลงทุน หลายคนอาจสงสัยหรือตัดสินใจเลือกไม่ได้ ว่าควรเน้นสร้างความมั่นคงเป็นหลัก หรือมองหาโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่สูงขึ้นดี
  -ในความเป็นจริงแล้ว แนวทางเหล่านี้ไม่จำเป็นต้องเลือกเพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง เพราะมีวิธีการจัดพอร์ตที่ช่วยผสมผสานทั้งสองเป้าหมายเข้าด้วยกันได้อย่างสมดุล นั่นคือ “กลยุทธ์แบบ Core-Satellite”
  -สำหรับกลยุทธ์นี้เป็นหนึ่งในแนวทางที่เข้าใจง่ายและนำไปใช้ได้จริง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเริ่มต้นวางพอร์ตการลงทุนอย่างเป็นระบบโดยไม่ซับซ้อนจนเกินไป และยังสามารถปรับให้เหมาะกับสไตล์การลงทุนของแต่ละคนได้อีกด้วย
 
1. Core-Satellite Strategy คืออะไร?
   -แนวคิดนี้มีจุดเริ่มต้นจากนักลงทุนสถาบัน ก่อนจะแพร่หลายสู่กลุ่มนักลงทุนรายย่อยในปัจจุบัน ซึ่งได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะช่วยสร้างสมดุลระหว่าง “ความมั่นคงระยะยาว” และ “โอกาสในการเพิ่มผลตอบแทน”
   -โดยวิธีการ คือแบ่งพอร์ตลงทุนออกเป็น 2 ส่วนหลัก ได้แก่
   -Core (แกนหลัก) หมายถึง สัดส่วนการลงทุนในพอร์ตที่เน้นการลงทุนในสินทรัพย์ที่มั่นคง มีโอกาสให้ผลตอบแทนสม่ำเสมอ และมีความเสี่ยงที่รับได้ สำหรับการลงทุนระยะยาว
   -Satellite (ส่วนเสริม) หมายถึง สัดส่วนการลงทุนในพอร์ตที่เน้นลงทุนในสินทรัพย์ที่มีโอกาสสร้างผลตอบแทนสูงกว่า และมาพร้อมกับความเสี่ยงที่มากกว่า Core
 
2.ทำความเข้าใจแต่ละส่วนให้ชัดเจน?
“Core ฐานที่มั่นคงของพอร์ตการลงทุน”
    -Core เปรียบเสมือน “รากฐาน” ของพอร์ตที่ช่วยรักษาความมั่นคง ลดความผันผวน และสร้างโอกาสรับผลตอบแทนระยะยาว
    -ตัวอย่างสินทรัพย์ในกลุ่ม Core:
    -กองทุนดัชนี (Index Funds) เช่น S&P 500 ที่เน้นหุ้นใหญ่ และมีรายได้จากทั่วโลก
     -กองทุนที่เน้นตลาดกว้าง ๆ กระจายความเสี่ยงหลายภูมิภาค
    -หุ้นบริษัทขนาดใหญ่ (Blue Chip) ที่มีความมั่นคงสูง
    -ตราสารหนี้คุณภาพดี
    -วัตถุประสงค์ของ Core:
    -ช่วยสร้างความมั่นคงให้พอร์ตโดยรวม
    -มีโอกาสให้ผลตอบแทนที่สม่ำเสมอ แม้ในช่วงที่ตลาดมีความผันผวน
    -ลดความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนในระยะสั้น
    -สัดส่วนแนะนำสำหรับ Core คือ 60-80% ของเงินลงทุนในพอร์ต มากน้อยขึ้นอยู่กับระดับความเสี่ยงที่นักลงทุนยอมรับได้
 
“Satellite พื้นที่สำหรับโอกาสในการเติบโต”
    Satellite คือส่วนเสริมที่เปิดโอกาสให้นักลงทุนแสวงหาผลตอบแทนที่สูงขึ้น โดยเน้นการลงทุนในสินทรัพย์หรือธีมที่มีศักยภาพเติบโต แม้จะมีความเสี่ยงสูงกว่า
    ตัวอย่างสินทรัพย์ในกลุ่ม Satellite:
      -หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี หุ้นเติบโต (Growth Stocks)
      -กองทุนแบบธีม (Thematic Funds) เช่น กลุ่ม AI, พลังงานสะอาด, Healthcare Innovation
      -REITs หรือตราสารหนี้ที่ให้ผลตอบแทนสูง
      สินทรัพย์ทางเลือก เช่น ทองคำ, สินทรัพย์ดิจิทัล (สำหรับผู้ที่ยอมรับความเสี่ยงได้ในระดับสูง)
   วัตถุประสงค์ของ Satellite:
      -เพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยตลาด
      -เปิดโอกาสในการลงทุนในเมกะเทรนด์หรือสินทรัพย์ทางเลือก
      -ช่วยให้พอร์ตไม่ตกเทรนด์และตอบสนองต่อโอกาสใหม่ ๆ ได้
        -สัดส่วนแนะนำ คือ 20-40% ของพอร์ตรวม มากน้อยขึ้นอยู่กับระดับความเสี่ยงที่นักลงทุนยอมรับได้เช่นกัน
 
3. ทำไมกลยุทธ์นี้ถึงเหมาะกับนักลงทุนยุคใหม่?
    -ช่วยสร้างสมดุลระหว่างความมั่นคงและโอกาสในการเติบโต
    -ปรับพอร์ตได้ตามสภาวะตลาด เมื่อตลาดมีความผันผวน ก็สามารถลดสัดส่วน Satellite เพื่อรักษาความมั่นคง หรือหากเห็นโอกาสที่น่าสนใจ ก็เพิ่ม Satellite ได้ตามความเหมาะสม
    -เหมาะสำหรับทั้งนักลงทุนมือใหม่และมืออาชีพ มือใหม่อาจเน้นสัดส่วน Core มากหน่อยเพื่อความสบายใจ ส่วนมืออาชีพที่ยอมรับความเสี่ยงได้สูงกว่าก็สามารถขยับ Satellite ให้มากขึ้น
    -สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ เมื่อมีสัดส่วนของ Satellite ในพอร์ตการลงทุน มักจะช่วยให้นักลงทุนใส่ใจการลงทุนมากขึ้น คาดหวังมากขึ้น จนในที่สุด ก็เพิ่มความสนใจและทำการบ้านเกี่ยวกับการลงทุนมากขึ้นตาม
 
สำหรับนักลงทุนที่อยากลองเริ่มต้นกลยุทธ์ Core-Satellite ด้วยตัวเอง KTAM ขอเสนอตัวอย่างการลงทุนผ่านกองทุนรวม เพื่อเป็นไอเดียการสร้างพอร์ตเพื่อโอกาสการเติบโตในระยะยาว โดยแบ่งเป็นสายดังนี้
นักลงทุนสายระมัดระวัง (Conservative Portfolio)
เป้าหมาย: เน้นความมั่นคงของเงินต้นและกระแสเงินสดระยะยาว รับความเสี่ยงได้ไม่มากนัก
แนะนำกลยุทธ์สำหรับ Core 80% แบ่งเป็น
• 50% เน้นกระจายการลงทุนในหุ้นทั่วโลก ทั้งตลาดพัฒนาแล้วและตลาดเกิดใหม่ แนะนำ KT-GEQ-A
• 30% เน้นลงทุนในตราสารหนี้คุณภาพดีระยะสั้น ทั้งภาครัฐและเอกชน ผันผวนน้อยกว่าหุ้น แนะนำ KT-ST
 
แนะนำกลยุทธ์สำหรับ Satellite 20% แบ่งเป็น
• 10% เน้นหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีขนาดใหญ่ เช่น Apple, Microsoft, NVIDIA แนะนำ KT-NASDAQ-A
• 10% เสริมพอร์ตด้วยทองคำ ลดความเสี่ยงในภาวะตลาดผันผวน แนะนำ KT-GOLDUH-A
นักลงทุนสายสมดุล (Balanced Portfolio)
เป้าหมาย: ต้องการทั้งความมั่นคงและโอกาสในการเติบโต รับความผันผวนได้ในระดับหนึ่ง
 
แนะนำกลยุทธ์สำหรับ Core 70% แบ่งเป็น
• 40% เน้นกระจายการลงทุนในหุ้นทั่วโลก ทั้งตลาดพัฒนาแล้วและตลาดเกิดใหม่ แนะนำ KT-GEQ-A
• 10% เน้นกระจายลงทุนหุ้นขนาดกลางและใหญ่คุณภาพดีในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว แนะนำ KT-WQUALITY-A
• 20% เน้นลงทุนในตราสารหนี้คุณภาพดีระยะสั้น ทั้งภาครัฐและเอกชน ผันผวนน้อยกว่าหุ้น แนะนำ KT-ST
 
แนะนำกลยุทธ์สำหรับ Satellite 30% แบ่งเป็น
• 15% เน้นหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีขนาดใหญ่ เช่น Apple, Microsoft, NVIDIA แนะนำ KT-NASDAQ-A
• 10% เน้นลงทุนในหุ้นกลุ่มยารักษาโรค เทคโนโลยีชีวภาพ และนวัตกรรมทางการแพทย์ แนะนำ KT-HEALTHCARE-A
• 5% เสริมพอร์ตด้วยทองคำ ลดความเสี่ยงในภาวะตลาดผันผวน แนะนำ KT-GOLDUH-A
นักลงทุนสายกล้าเสี่ยง (Aggressive Portfolio)
เป้าหมาย: มุ่งเน้นการเติบโตของพอร์ตเป็นหลัก ยอมรับความผันผวนได้สูง
 
แนะนำกลยุทธ์สำหรับ Core 60% แบ่งเป็น
• 30% เน้นกระจายการลงทุนในหุ้นทั่วโลก ทั้งตลาดพัฒนาแล้วและตลาดเกิดใหม่ แนะนำ KT-GEQ-A
• 20% กระจายลงทุนหุ้นขนาดกลางและใหญ่คุณภาพดีในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว แนะนำ KT-WQUALITY-A
• 10% เน้นลงทุนในตราสารหนี้คุณภาพดีระยะสั้น ทั้งภาครัฐและเอกชน ผันผวนน้อยกว่าหุ้น แนะนำ KT-ST
 
แนะนำกลยุทธ์สำหรับ Satellite 40% แบ่งเป็น
• 20% เน้นหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีขนาดใหญ่ เช่น Apple, Microsoft, NVIDIA แนะนำ KT-NASDAQ-A
• 10% เน้นลงทุนในหุ้นกลุ่มยารักษาโรค เทคโนโลยีชีวภาพ และนวัตกรรมทางการแพทย์ แนะนำ KT-HEALTHCARE-A
• 5% เปิดโอกาสรับผลตอบแทนจากเทคโนโลยีการทำธุรกรรมแห่งอนาคต แนะนำ KT-BLOCKCHAIN-A
• 5% เสริมพอร์ตด้วยทองคำ ลดความเสี่ยงในภาวะตลาดผันผวน แนะนำ KT-GOLDUH-A)
    ???? สำหรับพอร์ตตัวอย่างเหล่านี้ใช้กองทุนรวมที่สามารถเข้าถึงได้ง่าย ซื้อได้ผ่านช่องทางบริการทางการเงินทั่วไป
 
รายละเอียดกองทุนแนะนำ
• กองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ระยะสั้น (KT-ST) / (ความเสี่ยงระดับ 4)
เน้นลงทุนในตราสารหนี้ เงินฝาก หรือตราสารอื่นๆ ที่มีคุณภาพ โดยเฉลี่ยอายุไม่เกิน 1 ปี ทั้งนี้อาจพิจารณาลงทุนในต่างประเทศได้ไม่เกินร้อยละ 40 ของ NAV
 
• กองทุนเปิดเคแทม โกลบอล อิควิตี้ พาสซีฟ ฟันด์ (ชนิดสะสมมูลค่า) (KT-GEQ-A) / (ความเสี่ยงระดับ 6)
เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน iShares MSCI ACWI ETF (กองทุนหลัก) ซึ่งมีกลยุทธ์การลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนให้สอดคล้องกับผลการดำเนินงานของดัชนี MSCI ACWI โดยใช้กลยุทธ์การลงทุนแบบเชิงรับ
 
• กองทุนเปิดเคแทม NASDAQ 100 (ชนิดสะสมมูลค่า) (KT-NASDAQ-A) / (ความเสี่ยงระดับ 6)
เน้นลงทุนใน Invesco NASDAQ 100 ETF โดยกองทุนหลักเน้นการลงทุนในบริษัทที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดมากที่สุด 100 บริษัท ในตลาดหุ้น NASDAQ ของสหรัฐฯ (ไม่รวมหุ้นกลุ่มสถาบันการเงิน)
 
• กองทุนเปิดเคแทม World Quality Factor Equity Passive (KT-WQUALITY) / (ความเสี่ยงระดับ 6)
เน้นลงทุนใน iShares Edge MSCI World Quality Factor UCITS ETF (กองทุนรวมหลัก) โดยกองทุนหลักเน้นลงทุนในบริษัทขนาดกลางและขนาดใหญ่ในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว (DM) เป็นหลัก เพื่อให้ผลตอบแทนใกล้เคียงกับดัชนี MSCI World Sector Neutral Quality Index
 
• กองทุนเปิดเคแทม Blockchain Economy (ชนิดสะสมมูลค่า) (KT-BLOCKCHAIN-A) / (ความเสี่ยงระดับ 6)
เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนตราสารทุนของกองทุนรวมต่างประเทศ และ/หรือ กองทุนรวมอีทีเอฟ (กองทุนปลายทาง) ตั้งแต่ 2 กองทุนขึ้นไป โดยเฉลี่ยรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของ NAV โดยกองทุนหลักมีกลยุทธ์ลงทุนในบริษัทสินทรัพย์ดิจิทัล และ/หรือบริษัทที่ดำเนินธุรกิจ และ/หรือมีความเกี่ยวข้องกับระบบสินทรัพย์ดิจิทัล และ/หรือเทคโนโลยีบล็อกเชน
 
• กองทุนเปิดเคแทม เวิลด์ เฮลธ์แคร์ ฟันด์ (KT-HEALTHCARE-A) / (ความเสี่ยงระดับ 7)
เน้นลงทุนใน Janus Henderson Global Life Sciences Fund (กองทุนหลัก) โดยเน้นลงทุนในหุ้นของบริษัทต่าง ๆ ทั่วโลกที่มีความเกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์กับการดำเนินชีวิต ซึ่งเกี่ยวกับการรักษาหรือการพัฒนาคุณภาพชีวิต
 
• กองทุนเปิดเคแทม โกลด์ ฟันด์ Unhedged (ชนิดสะสมมูลค่า) (KT-GOLDUH-A) / (ความเสี่ยงระดับ 8)
เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน SPDR®GoldTrust (กองทุนรวมหลัก) เพียงกองเดียว โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV กองทุนหลักมุ่งลงทุนในทองคำแท่ง เพื่อสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับผลตอบแทนของราคาทองคำหักด้วยค่าธรรมเนียม และค่าใช้จ่ายในการจัดการทั้งหมดของกองทุน
 
สรุป: จัดพอร์ตอย่างมีระบบ เพื่อเป้าหมายที่ชัดเจน
    -การลงทุนไม่ใช่เรื่องของโชคช่วย แต่คือการวางแผนอย่างรอบคอบ กลยุทธ์การลงทุนแบบ Core-Satellite จะช่วยให้นักลงทุนสามารถ “กระจายความเสี่ยง” ในขณะที่ยัง “เปิดรับโอกาส” ได้พร้อมกัน
    -สุดท้ายแล้ว การเลือกสัดส่วนของ Core และ Satellite ควรสอดคล้องกับเป้าหมายการลงทุนและระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ เพราะในที่สุด “แผนการลงทุนที่ดีที่สุด คือลงทุนในแผนที่สามารถทำได้จริงและทำอย่างต่อเนื่อง”
 
สนใจเปิดบัญชีผ่านแอปพลิเคชัน KTAM Smart Trade ได้ที่ https://bit.ly/KTSTSignIn
 
คำเตือน : กองทุนมีความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยน (ยกเว้น กองทุน KT-GOLDUH ไม่มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน) ทั้งนี้ กองทุนมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนโดยดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน ในกรณีที่กองทุนไม่ได้มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน ผู้ลงทุนอาจจะขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ / ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
 
ผู้เขียน : เขมรัฐ ทรงอยู่
รองผู้อำนวยการ ฝ่ายลงทุนต่างประเทศ
บลจ.กรุงไทย
 
 
 
 
 

แชร์เรื่องนี้

  • Facebook
  • Twitter
  • Line

เรื่องอื่นๆที่น่าสนใจ

News Demo
22
สิงหาคม
2568
Capital Securities อีกหนึ่งทางเลือกของการลงทุนตราสารหนี้
อ่านต่อ
News Demo
15
สิงหาคม
2568
กับดักจิตวิทยาการลงทุน ทำไมจุดเข้าซื้อที่ดีที่สุด
อ่านต่อ
News Demo
08
สิงหาคม
2568
Smart Beta คืออะไร? เมื่อ ETF เริ่มฉลาดขึ้นและซับซ้อนขึ้นด้วย
อ่านต่อ

Shortcut Menu

  • หน้าแรก
  • เกี่ยวกับ KTAM
  • กองทุนรวม
  • กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
  • กองทุนส่วนบุคคล
  • กองทุนอสังหาริมทรัพย์/
    โครงสร้างพื้นฐาน
  • กองทุน RMF/LTF/SSF/ThaiESG
  • กองทุน FIF/ETF
  • กองทุนผลงานดี
  • ตารางจ่ายเงินปันผล
  • ข่าว/บทวิเคราะห์
  • กลยุทธ์การลงทุน
  • กำหนดการและแบบฟอร์ม
  • โปรโมชั่น
  • ปฏิทินกองทุน
  • ภาพกิจกรรม
  • ประกาศราคากลาง
  • AIMC Category
    Performance Report
  • ถาม-ตอบ
  • ความรู้เกี่ยวกับการลงทุน
  • ประกาศความเป็นส่วนตัวเกี่ยวกับการใช้งานคุกกี้
  • การตั้งค่าคุกกี้
  • สมัครรับข่าวสาร
  • ติดต่อเรา
  • ร่วมงานกับเรา
  • ประกาศความเป็นส่วนตัว
Go To Top
Stay Connect with us:
  • Facebook
  • Twitter
  • Youtube

สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2559, บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน)

KTAM Smart Plan: 0-2686-6100 กด 9 โทรสาร 0-2670-0430 ต่างจังหวัดโทรฟรี 1-800-295-592

อีเมล: callcenter@ktam.co.th

เลขประจำตัวผู้เสียภาษี 0-1075-45000-37-3 : สำนักงานใหญ่

  • พันธมิตรธุรกิจ
  • เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง
  • แผนผังเว็บไซต์

การใช้และการจัดการคุกกี้

เว็บไซต์ของบริษัทฯ มีการใช้งานคุกกี้ (cookies) เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ให้ดียิ่งขึ้น ทั้งนี้ คุณสามารถตั้งค่าและศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับ การใช้คุกกี้ของบริษัทฯ ได้ที่ ประกาศความเป็นส่วนตัวเกี่ยวกับการใช้งานคุกกี้ และ การตั้งค่าคุกกี้

 การใช้และการจัดการคุกกี้

เมื่อท่านเข้าใช้เว็บไซต์ของเรา เราใช้คุกกี้ที่จำเป็นเพื่อให้แน่ใจว่าเว็บไซต์ของเราจะ ทำงานได้อย่างถูกต้อง และเรายังใช้คุกกี้ประเภทอื่นๆ เพื่อรวบรวมพฤติกรรมการใช้ งานเว็บไซต์ของเราและนำข้อมูลดังกล่าวมาใช้ในการปรับปรุงเพื่อสร้างประสบการณ์ การใช้งานเว็บไซต์ให้ดียิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม ท่านสามารถเลือกตั้งค่าการใช้งานคุกกี้ บางประเภทได้ตลอดเวลา และบริษัทจะไม่ใช้คุกกี้ที่ท่านเลือกปิดการใช้งาน

ท่านสามารถศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้คุกกี้ของเราที่ ประกาศความเป็นส่วนตัวเกี่ยวกับการใช้งานคุกกี้


การกำหนดลักษณะความยินยอม

คุกกี้ที่จำเป็น

คุกกี้เหล่านี้ที่จำเป็นในการเปิดใช้คุณลักษณะการทำงานพื้นฐานของเว็บไซต์ เช่น การรักษาความปลอดภัย การบริหารจัดการเครือข่าย และการเข้าสู่ระบบ

คุกกี้วิเคราะห์

เราใช้คุกกี้ Google Analytics เพื่อการปรับปรุงประสิทธิภาพของเว็บไซต์โดยรวบรวมและรายงานข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ คุกกี้ดังกล่าวจะเก็บข้อมูลที่ไม่ระบุตัวบุคคลโดยตรง