เลือกกองทุนตราสารหนี้ให้ตรงใจแค่ ปลอดภัย อย่างเดียวไม่พอ
ในการวางแผนการสร้างพอร์ตลงทุน นักลงทุนหลายคนคงเคยได้ยินการจัดพอร์ตง่ายๆ แบบพื้นฐานตามความเสี่ยงที่มีองค์ประกอบหลัก คือ หุ้น (equity) และ ตราสารหนี้ (fixed income) โดยมีหุ้นเป็นส่วนที่คาดหวังผลตอบแทนสูง แต่มีความผันผวนมาก ขณะที่ตราสารหนี้คือสินทรัพย์ที่อาจจะให้ความมั่นคง และเป็นเบาะกันกระแทกในวันที่ตลาดหุ้นผันผวนแต่ความเป็นจริงคือ คำว่า ตราสารหนี้ อาจไม่ได้แปลว่าปลอดภัยเสมอไปหากนักลงทุนเลือกผิดหรือไม่เข้าใจสิ่งที่อยู่ในกองทุนตราสารหนี้อย่างดีพอ ส่วนที่เคยคิดว่า ปลอดภัย อาจจะผันผวนไม่แตกต่างจากหุ้น หรือในบางครั้งก็อาจกลายเป็นการลงทุนที่เสี่ยงยิ่งกว่าหุ้นได้ด้วยซ้ำวันนี้เราจะพาไปดู 4 มิติหลัก ที่นักลงทุนควรพิจารณาก่อนจะเลือกกองทุนตราสารหนี้ เพื่อให้คุณสามารถเลือกกองทุนที่ตรงกับระดับความเสี่ยงที่คุณรับได้ และตอบโจทย์เป้าหมายของพอร์ตจริง ๆ
ในการวางแผนการสร้างพอร์ตลงทุน นักลงทุนหลายคนคงเคยได้ยินการจัดพอร์ตง่ายๆ แบบพื้นฐานตามความเสี่ยงที่มีองค์ประกอบหลัก คือ หุ้น (equity) และ ตราสารหนี้ (fixed income) โดยมีหุ้นเป็นส่วนที่คาดหวังผลตอบแทนสูง แต่มีความผันผวนมาก ขณะที่ตราสารหนี้คือสินทรัพย์ที่อาจจะให้ความมั่นคง และเป็นเบาะกันกระแทกในวันที่ตลาดหุ้นผันผวนแต่ความเป็นจริงคือ คำว่า ตราสารหนี้ อาจไม่ได้แปลว่าปลอดภัยเสมอไปหากนักลงทุนเลือกผิดหรือไม่เข้าใจสิ่งที่อยู่ในกองทุนตราสารหนี้อย่างดีพอ ส่วนที่เคยคิดว่า ปลอดภัย อาจจะผันผวนไม่แตกต่างจากหุ้น หรือในบางครั้งก็อาจกลายเป็นการลงทุนที่เสี่ยงยิ่งกว่าหุ้นได้ด้วยซ้ำวันนี้เราจะพาไปดู 4 มิติหลัก ที่นักลงทุนควรพิจารณาก่อนจะเลือกกองทุนตราสารหนี้ เพื่อให้คุณสามารถเลือกกองทุนที่ตรงกับระดับความเสี่ยงที่คุณรับได้ และตอบโจทย์เป้าหมายของพอร์ตจริง ๆ
รู้จัก 4 มิติสำคัญก่อนตัดสินใจลงทุน
มิติที่หนึ่ง "Credit Safety": ความน่าเชื่อถือของผู้ออกตราสาร
มิติแรกนี้ควรพิจารณาเวลาเลือกกองทุนตราสารหนี้เสมอ หากเราพูดถึง ความปลอดภัย ของตราสารหนี้ เรากำลังหมายถึงโอกาสที่ผู้ออกตราสารจะผิดนัดชำระหนี้หรือไม่ นี่คือสิ่งที่เรียกว่า "ความเสี่ยงด้านเครดิต" (credit risk)
- สำหรับนักลงทุนที่ต้องการความอุ่นใจ ไม่หวือหวามากนัก ก็ควรเน้นกองทุนที่ลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลไทยหรือมีกลุ่มนี้เป็นสัดส่วนหลักในพอร์ต เพราะถือว่าเป็นตราสารหนี้ที่มีความเสี่ยงต่ำสุด แต่แน่นอนว่าผลตอบแทนก็ต่ำตามไปด้วย
- แต่ถ้าผู้ลงทุนยอมรับความเสี่ยงเพิ่มได้มากขึ้นอีกเล็กน้อยเพื่อหวังผลตอบแทนที่ดีกว่า กองทุนที่มีสัดส่วนการลงทุนใน Corporate Bonds หรือตราสารหนี้ภาคเอกชน ก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะมักให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าพันธบัตรรัฐบาล
เคล็ดลับเล็ก ๆ สำหรับมือใหม่ เพื่อเริ่มต้นกับ "ตราสารหนี้ภาคเอกชน"
- ในเอกสารแสดงรายละเอียดกองทุน เราอาจพิจารณาจาก credit rating โดยรวมของพอร์ต ถ้าอยากลดความเสี่ยงจากการลงทุน ให้มองหากองทุนที่เฉลี่ยแล้วอยู่ระดับ A หรือสูงกว่า
- สำคัญกว่านั้น ถ้าเห็นว่าเศรษฐกิจกำลังชะลอตัวหรือมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดวิกฤติ แนะนำให้ลดสัดส่วนการลงทุนตราสารหนี้ภาคเอกชน แล้วเน้นพันธบัตรรัฐบาลแทน
"จำไว้เลยว่า ยิ่งหวังอัตราผลตอบแทนสูง ยิ่งต้องรับความเสี่ยงเพิ่ม
ดังนั้นจงเลือกลงทุนตามระกับความเสี่ยงที่คุณ รับไหว จริง ๆ"
ดังนั้นจงเลือกลงทุนตามระกับความเสี่ยงที่คุณ รับไหว จริง ๆ"
มิติที่สอง "Duration Safety": ความอ่อนไหวต่อการเปลี่ยนแปลงของดอกเบี้ย
แม้คุณจะเลือกตราสารหนี้ที่ผู้ออกมีเครดิตดีแล้ว แต่ยังมีอีกปัจจัยที่สำคัญมากคือ duration หรือ ระยะเวลาเฉลี่ยที่เงินจะกลับเข้ากระเป๋าเรา
"Duration ยิ่งสูง ผลตอบแทนยิ่งผันผวนเวลาที่ดอกเบี้ยขยับ"
"Duration ยิ่งสูง ผลตอบแทนยิ่งผันผวนเวลาที่ดอกเบี้ยขยับ"
- ถ้าดอกเบี้ย ลด ราคาของกองทุนที่มี duration สูงจะบวกแรงกว่ากองทุนที่มี duration น้อยกว่า
- ถ้าดอกเบี้ย ขึ้น ราคาของกองทุนกลุ่มนี้ก็ ร่วงแรงกว่ากองทุนที่มี duration น้อยกว่าเช่นกัน
เช่น กองทุนที่มี duration 7 ปี ผลตอบแทนจะปรับตัวลดลงมากกว่ากองทุนที่มี duration 2 ปี ในกรณีที่ดอกเบี้ยเป็นขาขึ้น
คำแนะนำง่าย ๆ สำหรับมือใหม่:
คำแนะนำง่าย ๆ สำหรับมือใหม่:
- ถ้าคุณต้องการความสงบ ลดความเสี่ยงและไม่ชอบพอร์ตผันผวน ควรเลือกกองทุนที่มี duration ต่ำ
- ถ้าคุณเชื่อว่าดอกเบี้ยจะลดลงต่อ และคุณยอมรับกับความผันผวนเพื่อหวังผลตอบแทนเพิ่มขึ้น กองทุนที่มี duration สูงก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ
"สรุปง่าย ๆ คือ duration เปรียบเหมือนความไวของกองทุนต่อการเปลี่ยนแปลงของดอกเบี้ย
อยากนิ่งก็เลือกต่ำ อยากลุ้นก็เลือกสูง"
อยากนิ่งก็เลือกต่ำ อยากลุ้นก็เลือกสูง"
มิติที่สาม "Local vs Foreign Bond Fund": กองทุนตราสารหนี้ไทยหรือกองตราสารหนี้ต่างประเทศดี
มิตินี้คือการตัดสินใจว่าเราจะลงทุนในตราสารหนี้ในประเทศหรือต่างประเทศ อะไรดีกว่ากัน
ข้อดีของกองทุนตราสารหนี้ไทยส่วนใหญ่:
ข้อดีของกองทุนตราสารหนี้ไทยส่วนใหญ่:
- เข้าใจง่าย และมีผันผวนไม่สูงมาก
- มักมี Credit risk โดยเฉพาะตราสารหนี้ระยะสั้น ส่วนใหญ่มีนโยบายไม่ลงทุนต่ำว่า investment grade และมักจะมี duration ที่ไม่สูงเกินไป
ข้อดีของกองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศ:
- มักให้ yield ที่สูงตาม duration ที่สูงกว่าตราสารหนี้ไทย แต่ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงที่มากกว่าเช่นกัน
ต้องรู้ไว้ กองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศที่ขายในประเทศไทยจำนวนมาก มักลงทุนในตราสารหนี้ที่จัดว่ามีความเสี่ยงสูง ไม่ว่าจะเป็นหุ้นกู้ดอกเบี้ยสูง (High Yield Bond), พันธบัตรประเทศตลาดเกิดใหม่ (Emerging Market) หรือมีตราสารหนี้ที่มี duration ยาวกว่าตราสารหนี้ไทย นอกจากนี้ ยังมีเรื่องความเสี่ยงค่าเงิน (Exchange Rate Risk) รวมถึงนโยบายการป้องกันความเสี่ยงค่าเงิน (FX hedging) ของกองทุนให้เราต้องพิจารณาเพิ่มด้วย
ดังนั้น ถ้าอยากลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศ แนะนำให้:
ดังนั้น ถ้าอยากลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศ แนะนำให้:
- ศึกษาให้ละเอียดว่ากองทุนลงทุนในอะไร และมีระดับ credit risk เป็นอย่างไร
- ดูว่า duration ของพอร์ตสูงเกินที่รับได้หรือไม่
- ศึกษานโยบายป้องกันความเสี่ยงค่าเงิน (FX hedging) ของกองทุนนั้น ๆ
"กองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศบางกองทุน อาจมีระดับความเสี่ยงไม่ต่างจากกองทุนหุ้นมากนัก
จึงอย่าคิดแค่ว่า เป็นตราสารหนี้ก็ปลอดภัยเสมอไป"
จึงอย่าคิดแค่ว่า เป็นตราสารหนี้ก็ปลอดภัยเสมอไป"
มิติที่สี่: เลือกกองทุนให้ตรงกับ ตัวคุณ
หลังจากเข้าใจ 3 มิติแรกแล้ว มิตินี้คือ ความเข้ากันได้ ระหว่างกองทุนกับ นิสัยการลงทุน ของคุณเอง ถามตัวเองง่าย ๆ ว่า:
- คุณอยากได้พอร์ตที่ นิ่ง และไม่หวือหวาหรือไม่ ถ้าใช่ ให้เน้นไปทางกองทุนพันธบัตรรัฐบาล หรือกองทุนที่มี duration ต่ำ ๆ
- คุณยอมรับความผันผวนได้บ้าง เพื่อให้ได้ yield ดีขึ้นหรือไม่ ถ้าใช่ ให้มองหากองทุนที่มีสัดส่วนของตราสารหนี้เอกชนมากขึ้น หรือกองทุนที่มี duration ยาวขึ้น
- คุณอยากกระจายลงทุนไปต่างประเทศ และพร้อมศึกษาเพิ่มเติมหรือไม่ ถ้าใช่ Foreign Bond Fund ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ (แต่ต้องเข้าใจจริงๆ นะ)
อย่าลืมว่า ตราสารหนี้ คือส่วนที่ควรทำหน้าที่เป็น กันชน ในพอร์ต
หากเลือกผิด กันชนอาจไม่ทำงานในวันที่ตลาดพังลงมาก็เป็นได้
สรุปตอนท้าย: ตราสารหนี้ ไม่ได้หมายถึง No Risk
นักลงทุนหลายคนเข้าใจผิดว่าแค่ลงทุนในตราสารหนี้ก็ปลอดภัยแล้ว แต่ในความเป็นจริงแล้ว ความเสี่ยงมีอยู่ทุกที่ แค่เปลี่ยนรูปแบบไปเท่านั้น เนื้อหานี้ไม่ได้เขียนมาเพื่อทำให้คุณกลัวตราสารหนี้ แต่เพื่อให้นักลงทุนตระหนักว่าการเลือกกองทุนตราสารหนี้ก็ต้องใช้ความเข้าใจไม่ต่างจากการเลือกหุ้นเช่นกัน
Check list 4 มิตินี้ทุกครั้งก่อนเลือกกองทุนเสมอ:
หากเลือกผิด กันชนอาจไม่ทำงานในวันที่ตลาดพังลงมาก็เป็นได้
สรุปตอนท้าย: ตราสารหนี้ ไม่ได้หมายถึง No Risk
นักลงทุนหลายคนเข้าใจผิดว่าแค่ลงทุนในตราสารหนี้ก็ปลอดภัยแล้ว แต่ในความเป็นจริงแล้ว ความเสี่ยงมีอยู่ทุกที่ แค่เปลี่ยนรูปแบบไปเท่านั้น เนื้อหานี้ไม่ได้เขียนมาเพื่อทำให้คุณกลัวตราสารหนี้ แต่เพื่อให้นักลงทุนตระหนักว่าการเลือกกองทุนตราสารหนี้ก็ต้องใช้ความเข้าใจไม่ต่างจากการเลือกหุ้นเช่นกัน
Check list 4 มิตินี้ทุกครั้งก่อนเลือกกองทุนเสมอ:
- Credit rating ของพอร์ตเป็นอย่างไร
- Duration สูงหรือต่ำ
- เป็นกองทุนในประเทศหรือต่างประเทศ
- เหมาะกับตัวคุณแค่ไหน
ถ้าเช็กครบแบบนี้ทุกครั้ง การลงทุนในตราสารหนี้ก็จะกลายเป็น พลังเสริม ให้พอร์ตการลงทุนของคุณอย่างแท้จริง
KTAM Fixed Income Fund Guide: เลือกกองทุนรวมตราสารหนี้กองไหนดีให้ตรงใจคุณ
ถ้าคุณได้อ่านบทความนี้และต้องการลงทุน วันนี้ บลจ.กรุงไทย (KTAM) ได้คัดกองทุนรวมตราสารหนี้ โดยแบ่งออกเป็น 4 กลุ่มที่สอดคล้องกับ มิติสำคัญในการเลือกกองทุน ที่เราได้แนะนำไปก่อนหน้านี้ ทั้งเรื่อง Credit Safety, Duration, Local vs Foreign และความเข้ากันกับ สไตล์ของคุณ มาเป็นแนวทางเพื่อตอบโจทย์การลงทุนของคุณแล้ว ดังนี้
KTAM Fixed Income Fund Guide: เลือกกองทุนรวมตราสารหนี้กองไหนดีให้ตรงใจคุณ
ถ้าคุณได้อ่านบทความนี้และต้องการลงทุน วันนี้ บลจ.กรุงไทย (KTAM) ได้คัดกองทุนรวมตราสารหนี้ โดยแบ่งออกเป็น 4 กลุ่มที่สอดคล้องกับ มิติสำคัญในการเลือกกองทุน ที่เราได้แนะนำไปก่อนหน้านี้ ทั้งเรื่อง Credit Safety, Duration, Local vs Foreign และความเข้ากันกับ สไตล์ของคุณ มาเป็นแนวทางเพื่อตอบโจทย์การลงทุนของคุณแล้ว ดังนี้
กลุ่ม 1: สายเซฟเน้นอุ่นใจ
เหมาะมือใหม่ลงทุน สาย Conservative คนอยากพักเงินแบบเสี่ยงต่ำ
กองทุนแนะนำ
KTSS (กรุงไทยตราสารตลาดเงิน)
นโยบายการลงทุน: เน้นลงทุนในเงินฝากและตราสารหนี้คุณภาพดี ระดับความเสี่ยง: 1
KTPLUS (กรุงไทย ธนทรัพย์ พลัส)
นโยบายการลงทุน: เน้นลงทุนในเงินฝากและตราสารหนี้คุณภาพดี คล้าย KTSS เนื่องจาก KTPLUS เป็นกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น ที่มี duration สูงกว่า และสามารถลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศได้ จึงมีความเสี่ยงสูงกว่า และสามารถสร้างโอกาสรับผลตอบแทนได้มากกว่า KTSS
ระดับความเสี่ยง: 4
กองทุนแนะนำ
KTSS (กรุงไทยตราสารตลาดเงิน)
นโยบายการลงทุน: เน้นลงทุนในเงินฝากและตราสารหนี้คุณภาพดี ระดับความเสี่ยง: 1
KTPLUS (กรุงไทย ธนทรัพย์ พลัส)
นโยบายการลงทุน: เน้นลงทุนในเงินฝากและตราสารหนี้คุณภาพดี คล้าย KTSS เนื่องจาก KTPLUS เป็นกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น ที่มี duration สูงกว่า และสามารถลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศได้ จึงมีความเสี่ยงสูงกว่า และสามารถสร้างโอกาสรับผลตอบแทนได้มากกว่า KTSS
ระดับความเสี่ยง: 4
กลุ่ม 2: อยากได้โอกาสรับผลตอบแทนดีขึ้นนิด และพร้อมรับความเสี่ยงเพิ่มขึ้นได้
เหมาะกับนักลงทุนเริ่มต้นที่อยากได้ผลตอบแทนเพิ่ม ถือได้เกิน 1 เดือน ยอมรับความผันผวนเล็กน้อยได้
กองทุนแนะนำ
KT-ST (กรุงไทยตราสารหนี้ระยะสั้น)
นโยบายการลงทุน: เน้นลงทุนในตราสารหนี้คุณภาพดี ทั้งในและต่างประเทศที่มีอายุไม่ยาวเกินไป
ระดับความเสี่ยง: 4
กองทุนแนะนำ
KT-ST (กรุงไทยตราสารหนี้ระยะสั้น)
นโยบายการลงทุน: เน้นลงทุนในตราสารหนี้คุณภาพดี ทั้งในและต่างประเทศที่มีอายุไม่ยาวเกินไป
ระดับความเสี่ยง: 4
กลุ่ม 3: พร้อมลุยนิด ๆ ขยับเข้าโซนกลาง เสี่ยงได้บ้าง ขอผลตอบแทนคุ้ม
เหมาะกับคนที่พร้อมรับความผันผวนได้บ้าง ต้องการผลตอบแทนดีกว่าระยะสั้น คาดการณ์ว่าอัตราดอกเบี้ยจะลดลง
กองทุนแนะนำ
KTFIX-1Y3Y
โยบายการลงทุน: เน้นลงทุนในตราสารหนี้ในประเทศ ที่มีอายุเฉลี่ย 1-3 ปีโดยประมาณ
ระดับความเสี่ยง: 4
KTFIXPLUS
นโยบายการลงทุน: เน้นลงทุนในตราสารหนี้ทั้งใน และ/หรือต่างประเทศ โดยมีสัดส่วนการลงทุนในต่างประเทศไม่เกินร้อยละ 50
ระดับความเสี่ยง: 4
กองทุนแนะนำ
KTFIX-1Y3Y
โยบายการลงทุน: เน้นลงทุนในตราสารหนี้ในประเทศ ที่มีอายุเฉลี่ย 1-3 ปีโดยประมาณ
ระดับความเสี่ยง: 4
KTFIXPLUS
นโยบายการลงทุน: เน้นลงทุนในตราสารหนี้ทั้งใน และ/หรือต่างประเทศ โดยมีสัดส่วนการลงทุนในต่างประเทศไม่เกินร้อยละ 50
ระดับความเสี่ยง: 4
กลุ่ม 4: สายลุยระดับโลก – ต้องการผลตอบแทนสูง ยอมรับความเสี่ยงสูงได้
เหมาะกับเข้าใจตลาดโลก ศึกษากองทุนได้ลึก ยอมรับความเสี่ยงจาก FX / credit / duration
กองทุนแนะนำ
KT-GCINCOME
นโยบายการลงทุน: เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน Schroder International Selection Fund Global Credit Income (กองทุนหลัก) ซึ่งกองทุนหลักมีนโยบายการลงทุนอย่างน้อย 2 ใน 3 ของมูลค่าสินทรัพย์รวมของกองทุนในตราสารการเงินที่มีการจ่ายผลตอบแทนแบบอัตราดอกเบี้ยคงที่ และอัตราดอกเบี้ยลอยตัวที่มีอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ในระดับที่สามารถลงทุนได้ และหลักทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงที่ออกโดยรัฐบาล, หน่วยงานภาครัฐ, องค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศ และบริษัทต่าง ๆ ทั่วโลก รวมถึงประเทศในตลาดเกิดใหม่
ระดับความเสี่ยง: 4
KT-BOND
นโยบายการลงทุน: เน้นลงทุนใน PIMCO Funds : Global Investors Series PLC - Global Bond Fund (กองทุนหลัก) โดยลงทุนอย่างน้อยสองในสามของสินทรัพย์ของกองทุน โดยกระจายลงทุนในตราสารหนี้ในสลุงเงินหลักของโลก
ระดับความเสี่ยง: 4
KT-WCORP
นโยบายการลงทุน: เน้นลงทุนใน BGF Global Corporate Bond Fund (กองทุนหลัก) โดยกองทุนหลักลงทุนอย่างน้อยร้อยละ 70 ในตราสารหนี้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือในระดับน่าลงทุนทั่วโลก
ระดับความเสี่ยง: 5
กองทุนแนะนำ
KT-GCINCOME
นโยบายการลงทุน: เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน Schroder International Selection Fund Global Credit Income (กองทุนหลัก) ซึ่งกองทุนหลักมีนโยบายการลงทุนอย่างน้อย 2 ใน 3 ของมูลค่าสินทรัพย์รวมของกองทุนในตราสารการเงินที่มีการจ่ายผลตอบแทนแบบอัตราดอกเบี้ยคงที่ และอัตราดอกเบี้ยลอยตัวที่มีอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ในระดับที่สามารถลงทุนได้ และหลักทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงที่ออกโดยรัฐบาล, หน่วยงานภาครัฐ, องค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศ และบริษัทต่าง ๆ ทั่วโลก รวมถึงประเทศในตลาดเกิดใหม่
ระดับความเสี่ยง: 4
KT-BOND
นโยบายการลงทุน: เน้นลงทุนใน PIMCO Funds : Global Investors Series PLC - Global Bond Fund (กองทุนหลัก) โดยลงทุนอย่างน้อยสองในสามของสินทรัพย์ของกองทุน โดยกระจายลงทุนในตราสารหนี้ในสลุงเงินหลักของโลก
ระดับความเสี่ยง: 4
KT-WCORP
นโยบายการลงทุน: เน้นลงทุนใน BGF Global Corporate Bond Fund (กองทุนหลัก) โดยกองทุนหลักลงทุนอย่างน้อยร้อยละ 70 ในตราสารหนี้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือในระดับน่าลงทุนทั่วโลก
ระดับความเสี่ยง: 5
สรุปอีกที: เลือกกองตราสารหนี้ยังไงให้ตรงใจ
ลองดูว่า คุณเป็นนักลงทุนสไตล์ไหน แล้วใช้ 4 มิติช่วยตัดสินใจ:
- ถ้าต้องการนิ่งสุด: ไปทาง KTSS / KTPLUS
- ถ้าเริ่มอยากได้ yield: ลองดู KT-ST
- ถ้าอยากขยับเพิ่มความกล้า: พิจารณา KTFIX-1Y3Y / KTFIXPLUS-A
- ถ้าอยากลุยต่างประเทศ: ลองศึกษาลึก ๆ กับ KT-GCINCOME / KT-BOND / KT-WCORP
ลงทุนง่าย สะดวก ปลอดภัย ผ่านแอปพลิเคชั่น KTAM Smart Trade ได้ที่
สอบถามข้อมูลและขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ บลจ.กรุงไทย โทร. 0-2686-6100 กด 9 หรือธนาคารกรุงไทย และผู้สนับสนุนการขายหรือรับซื้อคืนหน่วยลงทุน
คำเตือน กองทุนมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน (ยกเว้น KTSS, KTFIX-1Y3Y) ทั้งนี้ กองทุนมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงโดยดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน (ยกเว้น KTFIXPLUS มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน) ในกรณีที่กองทุนไม่ได้มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน ผู้ลงทุนอาจจะขาดทุนหรือจะได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ / ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
ผู้เขียน: เขมรัฐ ทรงอยู่
รองผู้อำนวยการ ฝ่ายลงทุนต่างประเทศ
บลจ.กรุงไทย
สอบถามข้อมูลและขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ บลจ.กรุงไทย โทร. 0-2686-6100 กด 9 หรือธนาคารกรุงไทย และผู้สนับสนุนการขายหรือรับซื้อคืนหน่วยลงทุน
คำเตือน กองทุนมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน (ยกเว้น KTSS, KTFIX-1Y3Y) ทั้งนี้ กองทุนมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงโดยดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน (ยกเว้น KTFIXPLUS มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน) ในกรณีที่กองทุนไม่ได้มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน ผู้ลงทุนอาจจะขาดทุนหรือจะได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ / ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
ผู้เขียน: เขมรัฐ ทรงอยู่
รองผู้อำนวยการ ฝ่ายลงทุนต่างประเทศ
บลจ.กรุงไทย