Marshmallow Test คือ การทดลองของ Professor Dr. Walter Mischel จากมหาวิทยาลัย Stanford ในช่วงทศวรรษ 1960 ให้เด็กเล็ก 4-5 ขวบ รออยู่ในห้องพร้อมขนมมาร์ชเมลโล่วางอยู่ 1 ชิ้น ถ้าเด็กอดทนรอได้ 15 นาที โดยไม่กินขนมชิ้นนั้น จะมีคนเอาขนมมาให้เพิ่มอีก 1 ชิ้น แต่ด้วยกลิ่นที่หอมหวานของขนมทำให้เด็ก 2 ใน 3 อดใจรอไม่ไหว หยิบขนมขึ้นมากินในทันที
การทดลองยังไม่จบแค่นั้น นักวิจัยได้ติดตามเด็กเหล่านั้นไปจนโต และพบว่า เด็กกลุ่มที่อดทนรอคอยได้จะมีความสามารถในการควบคุมตัวเองมากกว่า มีปัญหาชีวิตน้อยกว่า มีคะแนนสอบเข้ามหาวิทยาลัยสูงกว่า ประสบความสำเร็จสูงกว่า และไม่แปลกใจว่า เป็นโรคอ้วนน้อยกว่าด้วย
อีกตัวอย่างหนึ่ง เรามาลองทำแบบทดสอบทางจิตวิทยาเกี่ยวกับการลงทุนดูบ้างครับ ถ้าเป็นคุณจะเลือกทางไหน
1. ได้เงินปันผล 10,000 บาท ในวันนี้ หรือรออีก 5 ปี เพื่อได้เงินปันผล 15,000 บาท
2. ได้เงินปันผล 10,000 บาท ในวันนี้ หรือรออีก 10 ปี เพื่อได้เงินปันผล 100,000 บาท
3. ได้เงินปันผล 10,000 บาท ในวันนี้ หรือรออีก 20 ปี เพื่อได้เงินปันผล 300,000 บาท
ถ้าเป็นข้อแรก หลายคนคงเลือกรับเงินเลยเพราะคุ้มสุด ใครจะไปรอ 5 ปีได้เงินเพิ่มนิดเดียว แต่ข้อสองและข้อสามบางคนเริ่มคิดหนัก ดูแล้วคุ้มแต่ต้องรอเป็นสิบปี ขณะที่หลายคนมีเงินเย็นตั้งใจเก็บเพื่อการเกษียณอยู่แล้ว ก็ตัดสินใจเลือกได้ทันทีเพราะว่าคุ้มกว่าเห็นๆ
พฤติกรรมแบบนี้เราเรียกว่า การลดทอนคุณค่าเนื่องจากความล่าช้าของเวลา หรือ Delay Discounting คือ แนวโน้มที่จะเห็นคุณค่าของรางวัลที่ได้รับในวันข้างหน้าลดลง ก็เหมือนกับกรณีของ Marshmallow Test เช่นกัน
ถ้าพูดเป็นสำนวนไทย ก็คงเข้ากับคำที่ว่า อดเปรี้ยวไว้กินหวาน อดทนได้ เพราะรู้ว่าสิ่งที่รออยู่คุ้มค่ากับการคอยแน่ๆ
ช่วงท้ายปลายปีแบบนี้ เชื่อว่าหลายคนมองหากองทุน RMF ไม่เพียงเพื่อสิทธิลดหย่อนภาษี แต่เป็นการวางแผนการลงทุนเพื่อเกษียณอายุด้วย ถ้าโจทย์หลักของคุณ คือ การลงทุนอย่างมั่นคงระยะยาว กลยุทธ์ที่เหมาะสมควรจะเป็นการลงทุนในหุ้นพื้นฐานดี มีปันผล ถือได้อย่างมั่นคง ไม่ใช่การลงทุนแบบซื้อๆ ขายๆ (Trading) ในระยะสั้น
ทำไมต้องลงทุนกับหุ้นปันผล
ผลตอบแทนจากการลงทุนทำได้ 2 ทาง คือ ส่วนต่างของราคา (Capital Gain) และ เงินปันผล (Dividend) ถ้าเรามองภาพการลงทุน คือ การที่เราเป็นเจ้าของธุรกิจ ถ้ากิจการดี รายได้ดี กำไรดี ราคาหุ้นก็อาจจะขึ้นตามมา ถ้าเราจับจังหวะซื้อขายดี เราก็จะได้กำไร แต่ว่าเราก็ต้องทำแบบนี้อยู่เรื่อยๆ หรือต้องหาบริษัทอื่นลงทุนแบบนี้อย่างต่อเนื่อง
แต่ถ้าเราลงทุนระยะยาวในบริษัทที่ผลกำไรดี และมีการจ่ายผลตอบแทนในรูปของเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้น เราก็สามารถเลือกที่จะไม่ขายหุ้น รอรับปันผลเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง ก็จะทำให้เงินลงทุนของเรางอกเงยมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ การลงทุนในหุ้นที่จ่ายปันผลสม่ำเสมอเป็นการลดความเสี่ยงในการลงทุนได้อย่างดี เป็นเกราะป้องกันในภาวะที่ตลาดหุ้นผันผวน หรือแม้แต่ภาวะที่ตลาดหุ้นเป็นขาลง การได้รับเงินปันผลสามารถช่วยลดแรงเสียดทานเหล่านั้นได้
วิธีการเลือกลงทุนในหุ้นปันผล
1. บริษัทใหญ่ มั่นคง พื้นฐานดี เริ่มต้นด้วยหลักการของความปลอดภัยไว้ก่อน เราควรลงทุนกับบริษัทที่ไว้ใจได้ว่ามีแบรนด์แข็งแกร่ง มีธรรมภิบาลที่ดี ประกอบธุรกิจอยู่ได้ยาวนาน อย่างเช่นหุ้นใน SET50 SET100
2. กำไรต่อเนื่อง จ่ายปันผลสม่ำเสมอ เพราะเราต้องการผลตอบแทนในรูปของเงินปันผล และเนื่องจากว่าเงินปันผลมาจากกำไรสุทธิของบริษัท เราจึงต้องเลือกบริษัทที่ทำกำไรได้ต่อเนื่อง สุขภาพทางการเงินแข็งแรง มีประวัติการจ่ายปันผลอย่างสม่ำเสมอ เพื่อที่จะได้มีโอกาสจ่ายปันผลให้เราได้ทุกปี
3. มีกำไรสะสม หนี้สินน้อย กระแสเงินสดเป็นบวก เพราะบางครั้งเราดูแต่กำไรสุทธิในงบกำไรขาดทุนว่าเป็นบวก แต่แค่นั้นยังไม่พอ ต้องมีเงินสดเข้าบริษัทจริงๆ ด้วย จะได้เอามาจ่ายปันผลได้ หนี้ที่น้อย และมีกำไรสะสมก็จะเป็นต้วบอกเราว่า ภาระไม่มี ไม่ต้องกังวลว่าจะเพิ่มทุน หรือได้กำไรมาเอาไปล้างขาดทุนจนหมด เราก็จะได้อุ่นใจ
4. เน้นลงทุนระยะยาว ไม่ใช่เก็งกำไร หรือ Trading ระยะสั้น เพราะเป้าหมายคือ ผลตอบแทนในรูปเงินปันผลที่มีการจ่ายเป็นรอบๆ อาจจะรายไตรมาส ครึ่งปี หรือเต็มปี และหวังผลตอบแทนแบบสม่ำเสมอทุกปี
แต่ถ้าคุณเลือกไม่ถูก หรือไม่รู้จะจัดสรรการลงทุนอย่างไรดี ขอแนะนำทางเลือกที่ง่ายกว่า นั่นคือ การลงทุนกับกองทุนหุ้นปันผลที่มาพร้อมสิทธิประโยชน์ทางภาษี อย่างกองทุน KT-HiDiV RMF
กองทุนเปิดกรุงไทย หุ้นไฮดิวิเดนด์ เพื่อการเลี้ยงชีพ (KT-HiDiV RMF)
เป็นกองทุนเน้นลงทุนในหลักทรัพย์ประเภทตราสารทุนของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่มีปัจจัยพื้นฐานดี ผลการดำเนินงานที่ดี มีประวัติการจ่ายเงินปันผลที่ดี สม่ำเสมอ และ/หรือมีศักยภาพในการจ่ายปันผลในอนาคต โดยมีอัตราส่วนการลงทุนในหลักทรัพย์เหล่านี้โดยเฉลี่ยรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ
จุดเด่นที่น่าสนใจของกองทุน
• ใช้กลยุทธ์แบบ ยึดมั่นในหลักการประเมินมูลค่าหุ้น เป็นหลักในการคัดเลือกหุ้นเข้าพอร์ต ต้องเป็นหุ้นที่พื้นฐานดี ผลประกอบการดี จ่ายปันผลสม่ำเสมอทั้งปัจจุบันและคาดว่าในอนาคตก็ยังเป็นเช่นนั้น ไม่ได้ลงทุนตามกระแสระยะสั้น ไม่จับจังหวะในการลงทุน
• พอร์ตการลงทุนส่วนใหญ่อยู่ในหุ้นใหญ่ พื้นฐานดี และกระจายความเสี่ยงหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น พลังงาน ธนาคาร ICT วัสดุก่อสร้าง อาหารและเครื่องดื่ม
• เงินปันผลที่ได้รับกองทุนจะนำกลับไปลงทุนต่อ เพื่อสะสมมูลค่าการลงทุนให้มากยิ่งขึ้น เปิดโอกาสสร้างความมั่งคั่งและมั่นคงในระยะยาวเพื่อการเกษียณ
• ปัจจุบันยังไม่มีการเก็บค่าธรรมเนียมซื้อ ขาย สับเปลี่ยนกองทุน (ยกเว้นสับเปลี่ยนออกไป บลจ. อื่น เก็บ 200 บาท ต่อรายการ) จะมีเรียกเก็บแค่ค่าธรรมเนียมการจัดการ ค่าผู้ดูแลผลประโยชน์ และค่านายทะเบียน 2.114% ของ NAV
• ลงทุนได้ด้วยเงินเริ่มต้นเพียง 500 บาท
สัดส่วนการลงทุนในบริษัท 5 อันดับแรก ณ วันที่ 30 กันยายน 2564
ที่มา: Monthly Fund Update ณ วันที่ 30 กันยายน 2564
ADVANC
ผลการดำเนินงานย้อนหลัง ณ วันที่ 30 กันยายน 2564
ดาวน์โหลดเลยวันนี้ :
สัดส่วนการลงทุนในบริษัท 5 อันดับแรก ณ วันที่ 30 กันยายน 2564
ที่มา: Monthly Fund Update ณ วันที่ 30 กันยายน 2564
ลักษณะธุรกิจของหุ้น 3 อันดับแรกในพอร์ต
ADVANC
บริษัท ICT ปันผลสม่ำเสมอ อันดับ 1 ของประเทศ ด้วยฐานสมาชิกกว่า 43 ล้านเลขหมาย ครอบคลุมทั้งโทรศัพท์มือถือ และกำลังเติบโตด้านอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง (AIS Fibre) มีอัตราการจ่าย4-5% ต่อปี และมีแนวโน้มว่าจะจ่ายปันผลเพิ่มขึ้น ภายหลังการปรับโครงสร้างในองค์กรที่มี GULF เข้ามา
ที่มา: https://investor.ais.co.th/factsheet.html
https://www.set.or.th/set/factsheet.do?symbol=ADVANC&ssoPageId=3&language=th&country=TH
ข้อมูลเดือน พฤศจิกายน 2564
PTT
บริษัทที่มี Market Cap อันดับ 1 ของประเทศ ธุรกิจครอบคลุมทั้งน้ำมัน โรงกลั่น ไฟฟ้า ก๊าซธรรมชาติ ค้าปลีก เป็นต้น มีอัตราการจ่ายปันผลสม่ำเสมอ 4-5% ต่อปี นอกจากนี้ยังมีบริษัทย่อยและบริษัทร่วมที่มีศักยภาพมากมายที่จะเสริมสร้างธุรกิจให้แข็งแกร่ง เช่น OR, GPSC, TOP, PTTEP เป็นต้น
ที่มา: https://www.set.or.th/th/products/index/monthlyreport_SET50.html
https://www.set.or.th/set/factsheet.do?symbol=ptt&ssoPageId=3&language=th&country=TH
ข้อมูลเดือน พฤศจิกายน 2564
SCC
บริษัทมั่นคงอายุกว่า 100 ปี ธุรกิจหลากหลายทั้งปูนซิเมนต์ เคมีภัณฑ์ และกระดาษ ผลิตและจัดจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ มีอัตราการจ่ายปันผลสม่ำเสมอ 4-5% ต่อปี นอกจากนี้ยังมีการลงทุนอย่างต่อเนื่องทั้งขยายกำลังการผลิต และซื้อกิจการต่างๆ เพิ่มเติม รวมถึงจะนำ SCG Chemical เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในอนาคตอีกด้วย
ที่มา: https://www.scg.com/th/01corporate_profile/
https://www.set.or.th/set/factsheet.do?symbol=scc&ssoPageId=3&language=th&country=TH
ข้อมูลเดือน พฤศจิกายน 2564
ปัจจัยความเสี่ยงของกองทุนที่สำคัญ เช่น ความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาหลักทรัพย์ / ความเสี่ยงจากการกระจุกตัวลงทุน เป็นต้น
ผลการดำเนินงานย้อนหลัง ณ วันที่ 30 กันยายน 2564
• ผลการดำเนินงานตั้งแต่ต้นปี +15.39%
• ผลการดำเนินงาน 1 ปี +39.79%
• ผลการดำเนินงาน 5 ปี +4.48%
• ผลการดำเนินงานตั้งแต่ก่อตั้งกองทุนเฉลี่ย +4.75%
ซึ่งหากพิจารณาผลการดำเนินงานระยะสั้นในรอบ 9 เดือน หรือ 1 ปี กองทุนสามารถทำได้ดี ฟื้นตัวตามตลาดหุ้นหลังจากวิกฤต COVID-19 และทำผลงานได้ดีกว่า Benchmark มาโดยตลอด ที่สำคัญ คือ ผลตอบแทนระยะยาวตั้งแต่จัดตั้งกองทุนมาก็สามารถทำผลงานเป็นบวกอย่างสม่ำเสมอ เรียกได้ว่า ก้าวข้ามวิกฤตหรือความผันผวนได้เป็นอย่างดี
ถึงแม้ว่าวันนี้เราอยู่ในวัยทำงาน แต่ก็คงไม่ต่างจากเด็กน้อย 1 ใน 3 ของกลุ่มนั้นที่อดใจไม่หยิบมาร์ชเมลโล่ขึ้นมากินในทันที เพราะเรารู้ดีว่า อนาคตของเราในวัยหลังเกษียณจะได้รับผลตอบแทนอย่างมั่นคงขนาดไหน ถ้าคุณอยากเป็นคนที่มีโอกาสมั่งคั่งในระยะยาว ออมหุ้นปันผลคุณภาพดี กับกองทุน KT-HiDiV RMF อาจจะเป็นคำตอบที่คุณกำลังมองหาอยู่ก็เป็นได้
นอกจากนี้ยังสามารถชำระผ่านบัตรเครดิต KTC หรือใช้คะแนน KTC FOREVER ทุกๆ 1,000 คะแนน แทนเงินลงทุน 100 บาท ได้ด้วยนะ โดยเงื่อนไขเป็นไปตามที่ บลจ. กรุงไทยและบัตรเครดิต KTC กำหนด และยังสามารถลงทุนออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชั่น KTAM Smart Trade ง่าย สะดวก ปลอดภัย อีกด้วย
ดาวน์โหลดเลยวันนี้ :
Android: https://bit.ly/KTST_Android
คำเตือน
ผลการดำเนินงานในอดีต / ผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต / ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ระบุไว้ในคู่มือการลงทุนในกองทุน RMF และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน อนึ่ง ผู้ถือหน่วยลงทุนจะไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี หากไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขการลงทุนที่กรมสรรพากรกำหนด และจะต้องคืนสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่เคยได้รับพร้อมเงินเพิ่มตามมาตรา 27 แห่งประมวลรัษฏากร
ศึกษารายละเอียดหรือขอรับหนังสือชี้ชวนที่ www.ktam.co.th บลจ.กรุงไทย โทร 02-686-6100 กด 9 หรือ ธนาคารกรุงไทย และ ผู้สนับสนุนการขาย (ถ้ามี)
#กองทุนสิทธิลดหย่อนภาษี2564 #กองทุนสิทธิลดหย่อนภาษี #กองทุนรวมสิทธิลดหย่อนภาษี #กองทุนรวม #กองทุนไหนดี #กองทุนSSFRMF #กองทุนRMF #กองทุนSSF #กองทุนKTAM #ซื้อกองทุนผ่านบัตรเครดิต #KTAMSMARTTRADE
ร่วมติดตามเนื้อหาการเงิน-การลงทุน ทั้งบทความและวิดีโอดีๆจาก KTAM ได้ที่
ช่องทางโซเชียลมีเดีย
ช่องทางโซเชียลมีเดีย
Facebook https://bit.ly/2C6urxv
Youtube https://bit.ly/2LYtPyz
Twitter https://bit.ly/2TzV98V
Podbeam http://bit.ly/3fajE78
Spotify https://spoti.fi/3CKOH5Z
Clubhouse https://bit.ly/3cRFGNO
Blockdit https://bit.ly/2W0yzgb
Line
