ทำไมเอเชีย เป็นผู้ได้ประโยชน์ จากเรื่องชิปขาดแคลน ในยุคโควิด 19
ผลจากการปรับตัวของโลกธุรกิจเข้าสู่ยุคเทคโนโลยี ทำให้ชิ้นส่วนสำคัญที่เรียกว่า “ชิป” กำลังเป็นที่ต้องการอย่างมาก โดยชิปที่ว่านี้ จะทำหน้าที่เสมือนเป็น “สมองกล” ที่จะคอยรับส่งข้อมูลและประมวลผลการทำงานภายในสินค้าต่าง ๆ เช่น อุปกรณ์ IoTs (Internet of Things), สมาร์ตโฟน, คอมพิวเตอร์ หรือรถยนต์
แล้ววิกฤติโควิด 19 ตอนนี้ เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้อย่างไร ?
ต้องยอมรับว่า การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด 19 กำลังส่งผลต่อการดำเนินชีวิตของเราไม่น้อย เช่น
- เปลี่ยนสถานที่ทำงาน จากออฟฟิศมาเป็นการทำงานที่บ้าน (Work for Home)
- เปลี่ยนการช็อปปิงมาอยู่บนโลกออนไลน์
- เปลี่ยนการดูภาพยนตร์มาอยู่ในรูปแบบวิดีโอสตรีมมิง
สังเกตไหมว่า การทำกิจกรรมเหล่านี้ มักจะมีจุดหนึ่งคล้าย ๆ กัน นั่นก็คือ การใช้งานจากเครื่องมือเทคโนโลยีอย่าง คอมพิวเตอร์ หรือสมาร์ตโฟน จุดนี้สะท้อนได้ว่า ภายใต้วิกฤติโควิด 19 ที่ดูเลวร้าย กลับกลายเป็นโอกาสที่ดีของ “ธุรกิจเทคโนโลยี” ที่กำลังมีความต้องการมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะธุรกิจผู้ผลิตชิป ซึ่งเป็นผู้ผลิตสมองกลของอุปกรณ์เทคโนโลยีเหล่านี้
แล้วเรื่องนี้ เกี่ยวอะไรกับ “เอเชีย” ทำไมถึงบอกว่า เอเชีย เป็นผู้ได้ประโยชน์จากเรื่องนี้ ?
ความต้องการชิปเพิ่มสูงขึ้น จนเกินระดับกำลังการผลิตชิปที่มีอยู่ กลายเป็น “วิกฤติชิปขาดแคลน” ที่ไม่เพียงพอต่อความต้องการในหลายอุตสาหกรรม ธุรกิจรถยนต์บางค่าย ถึงกับต้องประกาศยุติการผลิตรถยนต์ชั่วคราว
ท่ามกลางวิกฤติของหลายบริษัท แต่เรื่องนี้ กลับกลายเป็นโอกาสขยายธุรกิจครั้งใหญ่ ของผู้ผลิตชิปรายต่าง ๆ ที่มีออร์เดอร์เข้ามาจนล้นมือ ซึ่งแน่นอนว่ารวมถึงผู้ผลิตชิปรายใหญ่ที่สุดของโลก ที่ตั้งอยู่ในเอเชีย อย่าง Taiwan Semiconductor Manufacturing Company หรือที่เราเรียกสั้น ๆ ว่า “TSMC”
TSMC เป็นผู้ผลิตชิปให้กับบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของโลก เช่น Apple, Qualcomm และ Nvidia โดยครองส่วนแบ่งการตลาด ยอดการผลิตชิป สูงเป็นอันดับ 1 ด้วยสัดส่วน 55.6% และยังสร้างผลประกอบการโตต่อเนื่อง
ที่น่าสนใจคือ TSMC ยังตั้งเป้าขยายฐานการผลิตชิป ด้วยงบลงทุน 1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ตลอดระยะเวลา 3 ปีข้างหน้า เพื่อรองรับแนวโน้มความต้องการที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต ซึ่งสะท้อนได้ว่า TSMC จะเป็นอีกหนึ่งฐานการผลิตชิปที่สำคัญของโลกในช่วงโควิด 19 และในอนาคต
แล้วเราจะลงทุนใน TSMC และหลาย ๆ ธุรกิจอื่นในเอเชีย ที่เป็นฐานการผลิตสำคัญของโลกนี้ ได้อย่างไร ?
หนึ่งโอกาสสำคัญในการร่วมลงทุนในธุรกิจที่จะกลายเป็นฐานการผลิตของโลก ก็คือ การลงทุนผ่านกองทุนเปิดเคแทม เอเชีย โกรท อิควิตี้ ฟันด์ (ชนิดสะสมมูลค่า) หรือที่เรียกว่า KT-ASIAG-A
KT-ASIAG-A เป็นกองทุนประเภท Feeder Fund ที่มีนโยบายลงทุนในกองทุนรวมเพียงกองเดียว นั่นคือ JPMorgan Funds - Asia Growth Fund (Class I) ซึ่งจะบริหารกองทุนโดย JPMorgan Asset Management ผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนระดับโลก โดยมีเป้าหมายการลงทุน คือ การสร้างผลตอบแทนสูงสุดในบริษัทที่มีแนวโน้มการเติบโตที่ดี ในภูมิภาคเอเชีย (ยกเว้นญี่ปุ่น) รวมถึงตลาดเกิดใหม่ โดย 5 ประเทศ ที่กองทุนรวม KT-ASIAG-A มีสัดส่วนการลงทุนสูงสุด ได้แก่
- จีน 45.1%
- ไต้หวัน 13.4%
- เกาหลีใต้ 11.1%
- อินเดีย 10.5%
- ฮ่องกง 10.1%
ตัวอย่างธุรกิจชั้นนำ นอกเหนือจาก TSMC แล้ว
กองทุนรวม KT-ASIAG-A ยังเลือกลงทุนในธุรกิจอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เช่น
- Tencent บริษัทเจ้าของ WeChat แอปพลิเคชันแช็ตและซูเปอร์แอปยอดนิยมในจีน Tencent ยังเป็น ผู้พัฒนาเกมชื่อดังที่คนไทยรู้จัก อย่าง RoV และยังเน้นลงทุนในธุรกิจอื่นที่หลากหลาย
- Samsung Electronics บริษัทผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ชิป และสมาร์ตโฟนชั้นนำของโลก
- Alibaba บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำ และเจ้าของแพลตฟอร์ม E-commerce รายใหญ่ในจีน
กองทุนรวม KT-ASIAG-A อยู่ภายใต้การบริหารงานของ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย หรือ Krungthai Asset Management Public Company Limited (KTAM) ซึ่งเรามีความเชี่ยวชาญในด้านการลงทุนต่างประเทศ และยังมีพันธมิตรเป็น Fund House ผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนระดับโลก ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ JPMorgan Asset Management ผู้เป็นเจ้าของกองทุน JPMorgan Funds - Asia Growth Fund (Class I) ที่กองทุนรวม KT-ASIAG-A เลือกลงทุนในครั้งนี้นั่นเอง
จะเห็นว่า ความน่าสนใจของกองทุนรวม KT-ASIAG-A ไม่เพียงจะสร้างผลตอบแทนให้เติบโต ไปพร้อมกับโอกาสการเป็นฐานการผลิตโลก โอกาสการเติบโตของภูมิภาคเอเชีย และตลาดเกิดใหม่
แต่นักลงทุนยังสามารถลงทุนได้อย่างอุ่นใจ.. ภายใต้การดูแลของ KTAM ผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนต่างประเทศ อีกด้วย
กองทุนเปิดเคแทม เอเชีย โกรท อิควิตี้ ฟันด์ (ชนิดสะสมมูลค่า) (KT-ASIAG-A)
สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม https://www.ktam.co.th/fif-fund-detail.aspx?IdF=72&lang=th
หมายเหตุ: การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน
#ลงทุนต่างประเทศกับKTAM
#GlobalInvestmentWithKTAM
#KTAMที่เดียวจบครบเรื่องการลงทุนต่างประเทศ
References
-https://www.semiconductors.org/chipmakers-are-ramping-up.../
-https://asia.nikkei.com/.../Global-chip-shortage-could...
-https://www.hpcwire.com/.../tsmc-reports-2021-second.../
ร่วมติดตามเนื้อหาการเงิน-การลงทุน ทั้งบทความและวิดีโอดีๆจาก KTAM ได้ที่
ช่องทางโซเชียลมีเดีย
Facebook https://bit.ly/2C6urxv
Youtube https://bit.ly/2LYtPyz
Twitter https://bit.ly/2TzV98V
Podbeam http://bit.ly/3fajE78
Spotify https://spoti.fi/3CKOH5Z
Clubhouse https://bit.ly/3cRFGNO
Blockdit https://bit.ly/2W0yzgb