• X
  • ค้นหา
  • TH EN
      บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน)
      • Menu แนะนำ
        • NAV
        • ค้นหากองทุน
        • กองทุนแนะนำ
        • กองทุนผลงานดี
        • ตารางจ่ายเงินปันผล
        • วันหยุดกองทุน
        • ข่าว/บทวิเคราะห์
        • กลยุทธ์การลงทุน
        • กำหนดการและแบบฟอร์ม
        • โปรโมชั่น
        • ข้อมูลกองทุน
        • เปรียบเทียบกองทุน
        • KTAM Daily News
        • KTAM Edutainment
      • KTAM Smart Trade
      • PVD Online
      • Agent
      TH : EN
      • หน้าแรก
      • เกี่ยวกับ KTAM
      • กองทุนรวม
      • กองทุน RMF/LTF/SSF/ThaiESG
      • กองทุน FIF/ETF
      • กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
      • กองทุนส่วนบุคคล
      • กองทุนโครงสร้างพื้นฐาน/รีทส์/อสังหาริมทรัพย์
      1. หน้าแรก
      2. KTAM Edutainment
      3. WTI vs Brent สองราคาน้ำมันหลักขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลก

      WTI vs Brent สองราคาน้ำมันหลักขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลก

      WTI vs Brent สองราคาน้ำมันหลักขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลก
       
      ราคาน้ำมันเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่สะท้อนทิศทางเศรษฐกิจโลก ซึ่งการเปลี่ยนแปลงเพียงไม่กี่ดอลลาร์สามารถส่งผลต่อค่าขนส่ง ต้นทุนการผลิตสินค้าไปจนถึงการเคลื่อนไหวของตลาดการเงิน แต่สิ่งที่มักทำให้หลายคนสับสนคือ ทำไมน้ำมันถึงมีราคามากกว่าหนึ่งตัว โดยเฉพาะตัวเลขที่ถูกพูดถึงบ่อยที่สุดสองตัวคือ West Texas Intermediate (WTI) และ Brent
       
      แม้ว่าทั้งคู่จะเป็นราคาน้ำมันดิบที่ซื้อขายได้ในระดับโลก แต่ว่าแต่ละตัวต่างก็สะท้อนรูปแบบของตลาดน้ำมันที่แตกต่างกัน โดยราคา WTI จะผูกโยงกับสหรัฐฯ ในขณะที่ราคา Brent จะถูกใช้เป็นมาตรฐานสำหรับการค้าขายน้ำมันส่วนใหญ่ของโลก นอกสหรัฐฯ ซึ่งการเข้าใจที่มาของราคาทั้งสองและปัจจัยที่ขับเคลื่อนราคา จึงช่วยให้เราเห็นภาพที่รอบด้านมากขึ้นเกี่ยวกับตลาดพลังงานโลก และเข้าใจว่าทำไมตัวเลขเหล่านี้จึงมีอิทธิพลต่อเศรษฐกิจโลกอย่างต่อเนื่อง
       
      ทำไมถึงมีราคาน้ำมันสองแบบ
      น้ำมันดิบในแต่ละแหล่งที่มาอาจไม่ได้มีคุณสมบัติเหมือนกันหมด ความแตกต่างด้านความหนาแน่น (density) และปริมาณกำมะถัน (sulfur content) ทำให้การกลั่นและต้นทุนการแปรสภาพแตกต่างกันออกไปเพื่อสร้างมาตรฐานในการซื้อขาย ตลาดจึงได้เลือกใช้น้ำมันดิบบางประเภทมาเป็น benchmark ราคาในการใช้อ้างอิงในการทำธุรกรรมทั่วโลก
       
      2 benchmark ที่สำคัญที่สุด ได้แก่
      • WTI (West Texas Intermediate): เป็นมาตรฐานของน้ำมันดิบจากสหรัฐฯ
      • Brent: เป็นมาตรฐานของน้ำมันดิบจากทะเลเหนือ ซึ่งใช้เป็นเกณฑ์อ้างอิงสำหรับน้ำมันประมาณสองในสามของปริมาณที่ซื้อขายกันทั่วโลก
      การมี benchmark หลายแบบช่วยให้ราคาสะท้อนตลาดในพื้นที่ที่ต่างกันได้ชัดเจนขึ้น เช่น หากอุปทานน้ำมันในสหรัฐฯ ล้นตลาด ราคา WTI ก็จะลดลง แม้ว่าราคา Brent อาจไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากนัก ในทางกลับกัน หากเกิดความตึงเครียดในตะวันออกกลาง ราคา Brent ก็จะพุ่งขึ้นทันทีเพราะสะท้อนตลาดโลกนอกสหรัฐฯ
      WTI: กระจกสะท้อนตลาดอเมริกา
      WTI เป็นน้ำมันที่เรียกว่า light และ sweet คือ มีความหนาแน่นต่ำและกำมะถันต่ำ เหมาะสำหรับการกลั่นเป็นน้ำมันเบนซินและน้ำมันเครื่องบิน จุดส่งมอบของ WTI อยู่ที่เมือง Cushing รัฐ Oklahoma ซึ่งได้ชื่อว่า “Pipeline Crossroads of the World” เพราะเป็นศูนย์กลางเครือข่ายท่อส่งน้ำมันในสหรัฐฯ
       
      ราคาของ WTI มักตอบสนองต่อปัจจัยภายในประเทศ เช่น:
      • ระดับการผลิต shale oil
      • ความสามารถของท่อส่งในการขนส่ง
      • ข้อมูลสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จาก EIA
      • กำลังการกลั่นของโรงกลั่นสหรัฐฯ
      หากเกิดภาวะผลิตเกิน (oversupply) และไม่สามารถส่งออกได้เร็วพอ ราคาของ WTI ก็อาจลดลงอย่างแรงจนราคาต่ำกว่า Brent อย่างมีนัยสำคัญ
      Brent: กระจกสะท้อนตลาดโลก
      Brent คือน้ำมันดิบจากทะเลเหนือ จุดเด่นคือสามารถขนส่งทางเรือได้สะดวก ทำให้ราคานี้สะท้อน อุปสงค์และอุปทานระดับโลก ได้ชัดเจนมากกว่า WTI
       
      ปัจจัยที่มักขับเคลื่อนราคา Brent ได้แก่:
      • การตัดสินใจปรับนโยบายของ OPEC และพันธมิตร
      • เหตุการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง
      • ความต้องการใช้น้ำมันจากประเทศผู้บริโภครายใหญ่ เช่น จีน อินเดีย และยุโรป
      • ปัญหาคอขวดด้านการขนส่ง เช่น ช่องแคบ Hormuz หรือคลองสุเอซ
      ดังนั้น หากต้องการดูภาพรวมของตลาดน้ำมันโลก Brent คือดัชนีที่ต้องติดตาม
       
      ทำไม WTI มักถูกกว่า Brent
      • ภูมิศาสตร์และการขนส่ง: จุดส่งมอบของ WTI อยู่ที่กลางแผ่นดินสหรัฐฯ การส่งออกต้องพึ่งท่อส่งและโครงสร้างพื้นฐานที่จำกัด ในขณะที่ Brent อยู่ในทะเลเหนือ ซึ่งขนส่งทางเรือได้สะดวก ทำให้ Brent สะท้อนราคาตลาดโลกได้รวดเร็วกว่า
      • ข้อจำกัดด้านกฎหมายในอดีต: ก่อนปี 2015 สหรัฐฯ เคยห้ามส่งออกน้ำมันดิบ ส่งผลให้ WTI เกิดภาวะ oversupply ภายในประเทศ ราคาจึงถูกกดต่ำกว่า Brent แม้ข้อห้ามถูกยกเลิกแล้ว แต่ผลกระทบเชิงโครงสร้างยังคงอยู่
      • Risk Premium ของ Brent: ราคาของ Brent มักได้รับ “ค่าพรีเมียม” เพิ่ม เพราะสะท้อนความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ เช่น ความขัดแย้งในตะวันออกกลางหรือยุโรป ซึ่งเป็นเส้นทางหลักของการค้าพลังงานโลก
      • บทบาทในตลาดโลก: Brent ถูกใช้เป็น benchmark สำหรับการค้าขายน้ำมันดิบประมาณสองในสามของโลก จึงมีสภาพคล่องและการอ้างอิงกว้างขวางกว่า WTI ทำให้ราคามักซื้อขายสูงกว่าเล็กน้อยอย่างต่อเนื่อง
       
      ความเสี่ยงและความผันผวนของตลาดน้ำมัน
      ราคาน้ำมันดิบทั้ง WTI และ Brent มีความผันผวนสูง เนื่องจากปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้มากมาย เช่น
      • ภูมิรัฐศาสตร์: สงคราม ความขัดแย้ง หรือการคว่ำบาตร สามารถดันราคาน้ำมันให้พุ่งขึ้นได้ในชั่วข้ามคืน
      • อุปสงค์และอุปทานโลก: เศรษฐกิจจีนหรือสหรัฐฯ ที่โตช้า อาจกดดันความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลก
      • การเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีและพลังงานทดแทน: หากพลังงานหมุนเวียนเข้ามามีบทบาทมากขึ้น ก็จะกดดันราคาน้ำมันในระยะยาว
      • ข้อมูลสต็อกและการผลิต: รายงานประจำสัปดาห์จากหน่วยงานอย่าง EIA หรือการปรับกำลังการผลิตของ OPEC สามารถเขย่าตลาดได้ทุกครั้งที่เผยแพร่
      นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมน้ำมันถึงเป็นตลาดที่ทั้งนักเก็งกำไรและนักลงทุนสถาบันต้องจับตาอยู่เสมอ เพราะแม้ไม่ได้เทรดน้ำมันโดยตรง แต่การเคลื่อนไหวของราคาน้ำมัน WTI และ Brent ก็อาจเป็นสัญญาณที่สะท้อนภาวะเศรษฐกิจโลก ความผันผวนของตลาดหุ้นและค่าเงินที่อิงกับพลังงาน รวมไปถึงตัดสินใจลงทุนในสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้อง เช่น หุ้นกลุ่มพลังงาน ETF น้ำมัน หรือกองทุนสินค้าโภคภัณฑ์
       
      ETF น้ำมัน: ทางเลือกสำหรับนักลงทุน
      สำหรับผู้ที่อยากลงทุนในน้ำมันโดยไม่ต้องไปลงทุนเปิดสัญญา futures ด้วยตนเอง ปัจจุบันมี ETF ในต่างประเทศที่ผูกกับราคาน้ำมันทั้ง WTI และ Brent ช่วยให้นักลงทุนเข้าถึงตลาดน้ำมันได้สะดวกขึ้น ได้แก่
      • DBO (Invesco DB Oil Fund) เป็น ETF ที่อ้างอิงกับ WTI futures โดยตรง อย่างไรก็ตาม ผลตอบแทนของ DBO ไม่ได้ขึ้นกับราคาน้ำมันดิบอย่างเดียว แต่ยังขึ้นกับ โครงสร้างของตลาด futures (contango หรือ backwardation) และต้นทุนการ roll contracts
      • BNO (United States Brent Oil Fund) เป็น ETF ที่ออกแบบมาเพื่อติดตามราคาของ Brent crude oil futures เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการสะท้อนมุมมองต่อตลาดน้ำมันโลกมากกว่าตลาดในสหรัฐฯ
       
      สำหรับนักลงทุนที่ต้องการสร้างโอกาสการลงทุนในตลาดน้ำมัน ทาง KTAM ขอแนะนำ กองทุนเปิดเคแทม ออยล์ ฟันด์ (KT-OIL)  (ความเสี่ยงระดับ 8) เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน Invesco DB Oil Fund (กองทุนรวมหลัก) ประเภทกองทุนรวมเพื่อผู้ลงทุนทั่วไป (Retail Fund) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของ NAV โดยกองทุนหลักเน้นลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ WTI เพื่อให้ได้รับผลตอบแทนใกล้เคียงกับผลตอบแทนของดัชนี  DBIQ Optimum Yield Crude Oil Index Excess Return ซึ่งเป็นดัชนีที่มุ่งสะท้อนการเปลี่ยนแปลงของมูลค่าน้ำมันดิบ WTI
       
      *กองทุนรวมที่มีความเสี่ยงสูงหรือซับซ้อน
      คำเตือน :  กองทุนนี้มีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน ทั้งนี้ กองทุนมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงโดยดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน ในกรณีที่กองทุนไม่ได้มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวนผู้ลงทุนอาจจะขาดทุน หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ / ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน 
       
      ผู้เขียน: เขมรัฐ ทรงอยู่
      รองผู้อำนวยการ ฝ่ายลงทุนต่างประเทศ
      บลจ.กรุงไทย
       
       

      แชร์เรื่องนี้

      • Facebook
      • Twitter
      • Line

      เรื่องอื่นๆที่น่าสนใจ

      News Demo
      04
      ธันวาคม
      2568
      Gold Demand ใครคือผู้อยู่เบื้องหลังความต้องการทองคำของโลก
      อ่านต่อ
      News Demo
      28
      พฤศจิกายน
      2568
      สำรวจสี่เสาหลักกลยุทธ์สร้างรายรับของ Income Funds อีกหนึ่งทางเลือกการลงทุนในยุคอัตราดอกเบี้ยผันผวน
      อ่านต่อ
      News Demo
      21
      พฤศจิกายน
      2568
      คู่มือ Healthcare สำหรับนักลงทุนยุคใหม่ มองให้ลึกกว่าภาพใหญ่ของอุตสาหกรรมสุขภาพ
      อ่านต่อ

      Shortcut Menu

      • หน้าแรก
      • เกี่ยวกับ KTAM
      • กองทุนรวม
      • กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
      • กองทุนส่วนบุคคล
      • กองทุนอสังหาริมทรัพย์/
        โครงสร้างพื้นฐาน
      • กองทุน RMF/LTF/SSF/ThaiESG
      • กองทุน FIF/ETF
      • กองทุนผลงานดี
      • ตารางจ่ายเงินปันผล
      • ข่าว/บทวิเคราะห์
      • กลยุทธ์การลงทุน
      • กำหนดการและแบบฟอร์ม
      • โปรโมชั่น
      • ปฏิทินกองทุน
      • ภาพกิจกรรม
      • ประกาศราคากลาง
      • AIMC Category
        Performance Report
      • ถาม-ตอบ
      • ความรู้เกี่ยวกับการลงทุน
      • ประกาศความเป็นส่วนตัวเกี่ยวกับการใช้งานคุกกี้
      • การตั้งค่าคุกกี้
      • สมัครรับข่าวสาร
      • ติดต่อเรา
      • ร่วมงานกับเรา
      • ประกาศความเป็นส่วนตัว
      Go To Top
      Stay Connect with us:
      • Facebook
      • Twitter
      • Youtube

      สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2559, บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน)

      KTAM Smart Plan: 0-2686-6100 กด 9 โทรสาร 0-2670-0430 ต่างจังหวัดโทรฟรี 1-800-295-592

      อีเมล: [email protected]

      เลขประจำตัวผู้เสียภาษี 0-1075-45000-37-3 : สำนักงานใหญ่

      • พันธมิตรธุรกิจ
      • เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง
      • แผนผังเว็บไซต์

      การใช้และการจัดการคุกกี้

      เว็บไซต์ของบริษัทฯ มีการใช้งานคุกกี้ (cookies) เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ให้ดียิ่งขึ้น ทั้งนี้ คุณสามารถตั้งค่าและศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับ การใช้คุกกี้ของบริษัทฯ ได้ที่ ประกาศความเป็นส่วนตัวเกี่ยวกับการใช้งานคุกกี้ และ การตั้งค่าคุกกี้

       การใช้และการจัดการคุกกี้

      เมื่อท่านเข้าใช้เว็บไซต์ของเรา เราใช้คุกกี้ที่จำเป็นเพื่อให้แน่ใจว่าเว็บไซต์ของเราจะ ทำงานได้อย่างถูกต้อง และเรายังใช้คุกกี้ประเภทอื่นๆ เพื่อรวบรวมพฤติกรรมการใช้ งานเว็บไซต์ของเราและนำข้อมูลดังกล่าวมาใช้ในการปรับปรุงเพื่อสร้างประสบการณ์ การใช้งานเว็บไซต์ให้ดียิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม ท่านสามารถเลือกตั้งค่าการใช้งานคุกกี้ บางประเภทได้ตลอดเวลา และบริษัทจะไม่ใช้คุกกี้ที่ท่านเลือกปิดการใช้งาน

      ท่านสามารถศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้คุกกี้ของเราที่ ประกาศความเป็นส่วนตัวเกี่ยวกับการใช้งานคุกกี้


      การกำหนดลักษณะความยินยอม

      คุกกี้ที่จำเป็น

      คุกกี้เหล่านี้ที่จำเป็นในการเปิดใช้คุณลักษณะการทำงานพื้นฐานของเว็บไซต์ เช่น การรักษาความปลอดภัย การบริหารจัดการเครือข่าย และการเข้าสู่ระบบ

      คุกกี้วิเคราะห์

      เราใช้คุกกี้ Google Analytics เพื่อการปรับปรุงประสิทธิภาพของเว็บไซต์โดยรวบรวมและรายงานข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ คุกกี้ดังกล่าวจะเก็บข้อมูลที่ไม่ระบุตัวบุคคลโดยตรง