ซื้อ SSF/RMF แบบ Asset Allocation กระจายความเสี่ยง ชนะความผันผวน
ปี 2020 กำลังจะผ่านไป ซึ่งการลงทุนที่ขาดไม่ได้ในช่วงปลายปีแบบนี้ คงหนีไม่พ้นกองทุนรวม SSF/RMF
เพราะเป็นที่รู้กันดีว่าเป็นวิธีลงทุนที่สามารถนำไปหักลดหย่อนภาษีได้
อย่างไรก็ดี หลายคนมักเข้าใจผิดว่า SSF/RMF เป็นเครื่องมือสำหรับลดหย่อนภาษีเท่านั้น จนละเลยเป้าหมายอื่นๆ
ทั้งที่ความจริงแล้วสิทธิประโยชน์ทางภาษีเป็นสิทธิพิเศษอย่างหนึ่งจากการลงทุนเท่านั้น เพราะ RMF เป็นกองทุน
ที่ลงทุนเพื่อการเกษียณอายุ ส่วน SSF เป็นกองทุนที่ส่งเสริมการลงทุนระยะยาว
ดังนั้น การศึกษานโยบายการลงทุนของกองทุนนั้นๆ ว่าตอบโจทย์เป้าหมายการเงินและเป็นระดับความเสี่ยงที่เรายอมรับได้ไหม หรือต้องสอดคล้องกับสภาวะตลาดไหม จึงเป็นสิ่งที่เราควรให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกๆ ก่อนตัดสินใจซื้อ SSF/RMF
เรื่องของเรื่องคือ ปีนี้เป็นปีแห่งความผันผวนและไม่แน่นอนหลายอย่าง จนเราไม่กล้าตัดสินใจเพราะกลัวว่าจะผิดพลาดจากการลงทุน ที่สำคัญไม่รู้จะเลือกกองไหนดีถึงจะเหมาะกับตลาดที่เอาแน่เอานอนไม่ค่อยได้ในช่วงเวลานี้
หลายคนตัดสินใจไม่ได้ว่าจะซื้อกองทุน SSF/RMF ดีไหม?
กะว่าจะรอเงินบาทอ่อน นักท่องเที่ยวกลับมา ตลาดหุ้นฟื้นตัว ก็ยังไม่เห็นวี่แวว
คือ รอไปรอมาตั้งแต่ต้นปียันท้ายปี สุดท้ายก็ยังไม่ได้ซื้อซักที
“แล้วเราจะลงทุนกันอย่างไรดี เลือกกองทุนรูปแบบไหน ถึงจะเหมาะกับสถานการณ์ในปัจจุบันนี้มากที่สุด?”
...........................................................................................................................................................................
KTAM ขอแนะนำหลักการง่ายๆ ที่เรียกว่า “Asset Allocation” หรือ “การจัดสินทรัพย์การลงทุน” ซึ่งเป็นกลยุทธ์ลงทุนที่เหมาะสำหรับเอาไว้ใช้ฝ่าฟันยามเศรษฐกิจผันผวนแบบทุกวันนี้ ด้วยการกระจายความเสี่ยง กระจายสินทรัพย์ลงทุน เพื่อเอาชนะความผันผวนอธิบายแบบให้เห็นภาพง่ายๆ ก็คงเหมือนการ “อย่าเอาไข่ทุกฟองใส่ไว้ในตะกร้าใบเดียวกัน” เพราะถ้าเกิดตกพื้นขึ้นมา ไข่ทั้งหมดก็จะแตกทันที “ถ้าเลือกหยิบไข่แต่ละฟองใส่ในตะกร้าหลายใบ” จะดูปลอดภัยกว่า เพราะถ้าเผลอทำตก ก็ยังมีไข่อยู่ในตะกร้าใบที่เหลือให้เราได้กิน
ถ้าเปรียบ “ไข่” คือ เงินลงทุน และ “ตะกร้า” คือสินทรัพย์หรือทางเลือกในการลงทุน
การหยิบไข่ใส่ตะกร้า ก็เหมือนกับการกระจายความเสี่ยงในการลงทุน เน้นการลงทุนหุ้นพื้นฐานดีในหลากหลายอุตสาหกรรม ที่มีโอกาสเติบโตแข็งแกร่งในอนาคต ผสมผสานกับสินทรัพย์ที่เน้นความมั่นคงปลอดภัยสูง
ทำไมการลงทุนแบบ Asset Allocation ถึงสำคัญ?
Asset Allocation เป็นการจัดสรรเงินลงทุนโดยกระจายไปยังสินทรัพย์ที่หลากหลาย เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงของการลงทุน ไม่ให้กระจุกตัวไปที่สินทรัพย์ใดสินทรัพย์หนึ่งมากเกิน และยิ่งเหมาะกับการลงทุนในระยะยาว สินทรัพย์ที่เราลงทุนเพื่อกระจายความเสี่ยง ได้แก่- เงินฝาก
- ตราสารทุน เช่น หุ้น
- ตราสารหนี้ เช่น พันธบัตร หุ้นกู้
- สินทรัพย์ทางเลือก เช่น กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ทองคำ
ก่อนลงทุนแบบ Asset Allocation ต้องรู้อะไรบ้าง?
- รู้เป้าหมาย เช่น เป็นการลงทุนระยะยาวเพื่อการเกษียณอายุ สมมุติว่าวางแผนจะเกษียณเมื่ออายุ 60 ปี จะได้คำนวณได้ว่าควรมีสินทรัพย์เท่าใด เพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมายได้ เช่น อาจตั้งเป้าหมายผลตอบแทนที่ 10% ต่อปี
- รู้จักสินทรัพย์ที่ลงทุน เช่น รู้จักหุ้นที่เราลงทุนว่าทำธุรกิจอะไร จะมีการเติบโตมากน้อยแค่ไหน
- รู้จักความเสี่ยง เพราะสินทรัพย์แต่ละประเภทมีความเสี่ยงไม่เท่ากัน เราเองก็รับความเสี่ยงได้ไม่เท่ากัน
แนะนำกองทุนแบบ Asset Allocation ที่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี
สำหรับสภาวะตลาดผันผวนที่หลายคนกังวลอยู่ แล้วไม่รู้ว่าควรซื้อกองทุน SSF/RMF เพื่อลดหย่อนภาษีกองไหนดีKTAM ขอแนะนำ กองทุน "มั่งมีศรีสุข" SSF/RMF ที่ลงทุนแบบ Asset Allocation เน้นการลงทุนแบบกระจายความเสี่ยง เพื่อโอกาสรับผลตอบแทนต่อเนื่องในระยะยาว ทางเลือกสำหรับคนที่ต้องการทางหนีทีไล่และกังวลเรื่องความผันผวนของตลาด รายละเอียดเพิ่มเติม คลิก
ผลการดำเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันผลการดำเนินงานในอนาคต
การวัดผลการดำเนินงานของกองทุนรวมบนเว็บไซต์นี้ ได้จัดทำขึ้นตามมาตรฐานการวัดและนำเสนอผลการดำเนินงานของกองทุนรวมของสมาคมบริษัทจัดการลงทุน
กองทุนนี้มีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ทั้งนี้ กองทุนมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน
ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ระบุไว้ในคู่มือการลงทุนในกองทุน SSF/RMF และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน
ผู้ถือหน่วยลงทุนจะไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี หากไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขการลงทุน และจะต้องคืนสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่เคยได้รับพร้อมเงินเพิ่มตามมาตรา 27 แห่งประมวลรัษฏากร
ศึกษารายละเอียดหรือขอรับหนังสือชี้ชวนที่ ธนาคารกรุงไทย ผู้สนับสนุนการขาย หรือ บลจ.กรุงไทย โทร 02-686-6100 กด 9