ถึงเวลาซื้อ SSF/RMF แล้ว?
เผลอแป๊บเดียว จะสิ้นปีแล้ว
ฟิตเนสยังไม่ได้เข้า หนังสือยังไม่ได้อ่าน ว่าจะเก็บเงินลงทุนก็ยังไม่ได้เริ่ม
..................................................................................................................
พอพูดถึงเรื่องลงทุน ก็นึกขึ้นมาได้ว่า ยังไม่ได้ซื้อ SSF/RMF เลย
บางทีเห็นตลาดหุ้นตกหนัก เราก็ซื้อบ้าง ที่เหลือเราก็ไปซื้อให้ครบตอนเดือนธันวา
จริงๆ แล้ว ก็อยากรู้เหมือนกันว่า ควรซื้อ SSF/RMF ตอนไหนถึงจะดีนะ
เรามาทำความเข้าใจกันแบบนี้ก่อนครับว่า เราเป็นนักลงทุนสายไหน แล้วข้อดีข้อเสียเป็นอย่างไร
1. สายเสมอ ซื้อทีเดียวตอนธันวา
เชื่อว่าหลายคนเป็น คือ ทำงานยุ่งทั้งวัน ตั้งแต่เช้าจรดเย็น พอคิดได้อีกที อ้าว นี่จะหมดปีอยู่แล้ว ก็เลยซื้อ SSF/RMF ทีเดียวตอนเดือนธันวาคมเลย บางคนบอกโบนัสออกพอดี ถือซะว่าเป็นเงินเก็บไปเลยละกัน แต่ปัญหาก็อาจจะมีได้ เช่น ปลายปีหุ้นดันขึ้นพอดี กลายเป็นซื้อแพงไป หรือระหว่างปีรูดบัตร ทั้งช็อปทั้งเที่ยวหมดแล้ว เหลือเงินไม่เท่าไหร่ ก็จะซื้อได้น้อย หักภาษีก็ได้น้อยลงเช่นกัน
2. สายเกร็ง จับจังหวะซื้อตอนตลาดร่วง
คนกลุ่มนี้ชอบจับจังหวะ รอวันที่มีข่าวร้าย วันที่ตลาดแดง หุ้นร่วงแรง ๆ ก็เข้าซื้อ SSF/RMF เก็บไว้ วันต่อมาร่วงอีก ก็ซื้ออีก ถ้าโชคดีจับจังหวะตลาดถูก ก็จะได้ต้นทุนต่ำ แต่ถ้ายิ่งซื้อยิ่งลง ซื้อจนเงินหมด ก็ไม่ต่างอะไรกับการซื้อหุ้นแล้วถัวเฉลี่ยขาลง และจากประวัติศาสตร์ของตลาดหุ้นทั่วโลก เป็นเรื่องยากมากที่เราจะคาดเดาการขึ้นลงของราคาหุ้นได้อย่างแม่นยำ
3. สายกลาง ซื้อทุกเดือน
เพราะเชื่อว่าตลาดหุ้นเดี๋ยวขึ้นเดี๋ยวลง จับจังหวะไม่ถูก ซื้อถัวเฉลี่ยทุกเดือนเลยดีกว่า วิธีนี้เรียกว่า DCA หรือ Dollar Cost Average นั่นเอง ถึงแม้ว่าต้นทุนเราจะไม่ได้ต่ำที่สุด แต่แน่นอนว่าเราก็จะไม่ได้ซื้อในราคาแพงที่สุดเช่นกัน ที่สำคัญเหมือนเป็นการออมหุ้นไปในตัวทุกเดือน ฝึกวินัยไปในตัวได้อีกด้วย
4. สายผสม หุ้นลงก็ซื้อ ไม่ลงก็ซื้อ
อันนี้ออกแนวรักพี่เสียดายน้อง ก็แบ่งเงินที่จะลงทุนเป็น 2 ส่วนเท่า ๆ กัน ส่วนหนึ่งก็ DCA ไปทุกเดือน อีกส่วนหนึ่งก็จับจังหวะ เห็นช่วงไหนตลาดแดง ๆ ก็ซื้อไป ผ่านไปอีกเดือนสองเดือน ตลาดลงแรง ก็ซื้ออีก ซื้อจนครบโควต้าที่ต้องการ
คงบอกไม่ได้ว่าวิธีไหนดีกว่ากัน ต้องอยู่ที่ความเหมาะสมของแต่ละคนด้วย ว่ามีเวลาติดตามสถานการณ์ตลาดมากน้อยแค่ไหน รับความเสี่ยงได้แค่ไหน หรือจริตเราชอบแบบไหน แต่ถ้าถามว่า แล้วกองทุนไหนดี ถ้าแบบนี้ตอบได้ครับ สำหรับสภาวะตลาดผันผวนที่หลายคนกังวลอยู่ แล้วไม่รู้ว่าควรซื้อกองทุน SSF/RMF เพื่อลดหย่อนภาษีกองไหนดี
KTAM ขอแนะนำ กองทุน "มั่งมีศรีสุข" SSF/RMF ที่ลงทุนแบบ Asset Allocation เน้นการลงทุนแบบกระจายความเสี่ยง เพื่อโอกาสรับผลตอบแทนต่อเนื่องในระยะยาว ทางเลือกสำหรับคนที่ต้องการทางหนีทีไล่และกังวลเรื่องความผันผวนของตลาด อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม คลิก
มีความเข้าใจผิดที่อยากจะฝากทิ้งท้ายไว้
- ซื้อ SSF อย่างเดียวก็พอ เดี๋ยวไว้รอใกล้ ๆ เกษียณ หรืออายุซัก 50 ปี ก่อนค่อยซื้อ RMF แต่จริง ๆ แล้ว เราควรซื้อทั้ง 2 กองทุน ไปพร้อมกันเลย เพราะวัตถุประสงค์ที่แท้จริงไม่ใช่แค่เรื่องของการลดหย่อนภาษี แต่เป็นเรื่องของการออมเงินให้เราไว้ใช้อย่างเพียงพอหลังจากเกษียณอายุแล้วมากกว่า ซึ่งคงจะจริงเหมือนคำพูดที่ว่า “ตายไปยังใช้เงินไม่หมด แต่น่าสลดเงินหมดแล้วยังไม่ตาย”
ผลการดำเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันผลการดำเนินงานในอนาคต
กองทุนนี้มีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ทั้งนี้ กองทุนมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน
ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ระบุไว้ในคู่มือการลงทุนในกองทุน SSF/RMF และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน
ศึกษารายละเอียดหรือขอรับหนังสือชี้ชวนที่ ธนาคารกรุงไทย ผู้สนับสนุนการขาย หรือ บลจ.กรุงไทย โทร 02-686-6100 กด 9