ในช่วงปลายปีนี้ก็ถือว่าเป็นโค้งสุดท้ายของการมองหาโอกาสในการลงทุนไปพร้อมๆ กับการวางแผนลดหย่อนภาษี ซึ่งหลายๆ คนก็คงกำลังมองหากองทุนรวม RMF ที่มีนโยบายและธีมการลงทุนที่เหมาะสมกับเรา
โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่อย่างเราๆ ที่เกิดมาคุ้นเคยกับการใช้เทคโนโลยี นวัตกรรม และ AI มากขึ้นเพราะเป็นสิ่งที่อยู่ใกล้ตัว จนทำให้หลายๆ คนมองหาการลงทุนในธุรกิจที่ก้าวไปสู่ยุค 4.0 ซึ่งกำลังเป็นเทรนด์ที่มาแรงของโลกใบนี้ เริ่มสนใจแล้วใช่ไหมครับว่า ทำไมเราจะต้องลงทุนในกองทุน RMF 4.0 คลิ๊กดูแต่ละภาพได้เลย
เหตุผลที่คนสมัยใหม่นำ AI มาใช้ในทำธุรกิจมากขึ้นก็เพราะ AI สามารถเรียนรู้ข้อมูลต่างๆ ที่มีอยู่แล้วนำมาจัดการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นการช่วยมนุษย์ประมวลผลอย่างรวดเร็ว การวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ เพื่อนำมาตัดสินใจในทางเลือกให้กับเราอย่างมีประสิทธิภาพที่สุด
ตัวอย่างของการนำเอา AI มาใช้เช่น
1. การใช้หุ่นยนต์ในการตอบคำถามลูกค้าทางออนไลน์
2. การนำหุ่นยนต์ไปใช้ควบคุมการผลิต หรือ นำมาใช้ต้อนรับในงานบริการ ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร หรือโรงแรมต่างๆ
3. การนำเทคโนโลยี AI มาช่วยขับรถ ทำให้เราเดินทางบนรถที่ไร้คนขับได้ ทำให้ลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุต่างๆ
ตอนนี้โลกกำลังพัฒนาไปไกลแล้ว แม้บริษัทใหญ่ๆ ระดับโลกก็มีการใช้ AI ในธุรกิจเช่นเดียวกัน ตัวอย่างเช่น
Tesla มีการนำเสนอหุ่นยนต์ที่ใช้ AI มาใช้ทำงานเสี่ยงอันตรายแทนมนุษย์ รวมถึงการนำ AI เข้ามาใช้ในรถยนต์ไฟฟ้าอัตโนมัติ
Zoom โปรแกรมประชุมออนไลน์ยอดฮิตในปัจจุบัน มีการใช้ AI มาจัดการเลือกส่วนสำคัญในการประชุมรวมถึงช่วยถอดคำพูดในการประชุม
Amazon มีการใช้ AI ในการสร้างร้านค้าไร้คนขาย การใช้ระบบการจัดการสินค้าและการจัดส่ง ซึ่งทำให้การซื้อของเป็นเรื่องง่าย
SNAP แอปพลิเคชันชื่อดังระดับโลกได้มีการใช้เทคโนโลยีที่ใช้ศึกษาและจับการเคลื่อนไหวของมนุษย์ เพื่อนำมาใช้ทำระบบจำลองสร้างสรรค์งานในโลกความจริงเสมือน (AR)
สำหรับคนที่สนใจลงทุนในเทรนด์นี้ KTAM ขอแนะนำกองทุน KT-WTAI RMF หรือ กองทุนเปิดเคแทม เวิลด์ เทคโนโลยี อาร์ทิฟิเชียล อินเทลลิเจนซ์ อิควิตี้ เพื่อการเลี้ยงชีพ ที่จะเปิดวิสัยทัศน์โลกอนาคตของคุณไปกับการลงทุนใน AI ปัญญาประดิษฐ์
โดยมีนโยบายที่เน้นลงทุนโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของ NAV ในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมหลัก Allianz Global Artificial Intelligent ชนิด Class AT (USD) ซึ่งเสนอขายสําหรับลูกค้ารายย่อย ที่จะนำเงินไปลงทุนหุ้นทั่วโลกที่ธุรกิจของบริษัทได้รับประโยชน์หรือเกี่ยวข้องกับนวัตกรรม เทคโนโลยี แบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อใช้ประโยชน์ในการขับเคลื่อนธุรกิจและสร้างโอกาสในการเติบโตไปสู่โลกในอนาคต
หลักการลงทุนมีดังนี้
1. ค้นหาบริษัทที่เกี่ยวข้องและได้ประโยชน์จาก AI ไม่ใช่เฉพาะบริษัทที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีเท่านั้น แต่อาจจะเป็นบริษัทพลังงาน การแพทย์ ที่มีนวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ
2. เน้นบริษัทที่เทคโนโลยีจะส่งผลต่อความเปลี่ยนแปลงและการเติบโตในอนาคต
3. พิจารณาปัจจัยด้านราคาว่ายังมีโอกาสเพิ่มขึ้นหรือไม่ เพื่อเข้าซื้อหลักทรัพย์และสร้างผลกำไรในอนาคต
KT-WTAI RMF มีกลยุทธ์การลงทุนแบบ Bottom-Up ใช้กลยุทธ์การลงทุนโดยเริ่มจากการค้นหาบริษัทที่มีการพัฒนานวัตกรรมและ AI >1,000 บริษัท
หลังจากนั้น นำบริษัทมาวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและโอกาสในการเติบโตในอนาคต เพื่อคัดเลือกบริษัทให้เหลือ 150 -200 บริษัทเพื่อนำมาพิจารณา โดยเน้นบริษัทที่จะส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงและเติบโตในอนาคต
และสุดท้ายจะมีการคัดเลือกบริษัท 40-100 บริษัทมาสร้างพอร์ตการลงทุน โดยพิจารณาในเรื่องของราคาที่เหมาะสมเพื่อสร้างโอกาสในการทำกำไรให้กับนักลงทุนในอนาคต
กองทุน KT-WTAI น่าสนใจอย่างไร ?
• ความยืดหยุ่นในการลงทุน
มุมมองในการคิดเลือกลงทุนในนวัตกรรมที่จะเป็นตัวขับเคลื่อน
และไปทดแทนธุรกิจดั้งเดิมที่ไม่ใช่แค่การลงทุนในเทคโนโลยี
• กองทุนหลักวิเคราะห์หุ้นแบบ Bottom-Up
ลงทุนในบริษัทที่ได้รับประโยชน์จากการเติบโตของปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI
• ทีมผู้จัดการกองทุนรวมหลักที่มากด้วยประสบการณ์ ในการวิเคราะห์และการลงทุนในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี
• กองทุนหลักมีทีมบริหารและผู้จัดการกองทุนที่เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีจาก San Francisco มีประสบการณ์มากกว่า 10 ปี ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี และเป็นที่รู้จักใน Silicon Valley เป็นอย่างดี
ที่มา : Alianz Investor
โดยลงทุนขั้นต่ำครั้งแรก 500 บาท และลงทุนขั้นต่ำ 500 บาทในการลงทุนครั้งต่อ ๆ ไป
สรุปแล้วกองทุน KT-WTAI RMF เป็นกองทุนที่เหมาะสำหรับคนรุ่นใหม่ที่สนใจลงทุนในบริษัทที่มีการพัฒนาธุรกิจไปสู่ยุค 4.0 ซึ่งเป็นเทรนด์ที่กำลังมาแรงในยุคปัจจุบัน นอกจากนักลงทุนจะมีโอกาสสร้างผลตอบแทนจากการเติบโตของเทคโนโลยีแล้ว ยังสามารถนำการลงทุนในกองทุนนี้ไปใช้ลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย
กองทุนนี้เหมาะกับผู้ลงทุนที่ยอมรับความเสี่ยงจากการลงทุนในกองทุนรวมที่ลงทุนในหลักทรัพย์ประเภทต่างๆในต่างประเทศ ความเสี่ยงจากการผันผวนของมูลค่า ความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน และนักลงทุนที่ต้องการโอกาสที่ได้รับผลตอบแทนที่ดีจากการระดมทุนไปลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศ
พิเศษสำหรับคนสนใจซื้อกองทุน RMF สามารถชำระผ่านบัตรเครดิต KTC หรือใช้คะแนน KTC FOREVER ได้ โดยทุกๆ 1,000 คะแนน แทนเงินลงทุน 100 บาท
ยอดลงทุนสุทธิ SSF/RMF ทุกๆ 50,000 บาท
รับเงินคืน 100 บาท เข้ากองทุน KTSPLUS
สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่คลิกเลย https://www.ktam.co.th/upload/tb_promotion_823_1617278363.98319_file1.pdf
ลงทุนออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชั่น KTAM Smart Trade ง่าย สะดวก ปลอดภัย
ดาวน์โหลดเลยวันนี้
Android: https://bit.ly/KTST_Android
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ โทร 02-686-6100 หรือ www.ktam.co.th
ปัจจัยความเสี่ยงที่สำคัญ : ความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาหลักทรัพย์ ความเสี่ยงจากการกระจุกตัวลงทุน และความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งกองทุนนี้มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจ ของผู้จัดการกองทุน ในกรณีที่กองทุนไม่ได้มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน ผู้ลงทุนอาจจะขาดทุน หรือจะได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้
หมายเหตุ : ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจในลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ข้อมูลที่เกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ระบุไว้ในคู่มือการลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจในการลงทุน ทั้งนี้ หากลงทุนไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่สรรพากรกำหนด อาจจะต้องคืนสิทธิประโยชน์ทางภาษีและเสียเงินเพิ่ม
#กองทุนสิทธิลดหย่อนภาษี2564 #กองทุนสิทธิลดหย่อนภาษี #กองทุนรวมสิทธิลดหย่อนภาษี #กองทุนรวม #กองทุนไหนดี #กองทุนSSFRMF #กองทุนRMF #กองทุนSSF #กองทุนKTAM #ซื้อกองทุนผ่านบัตรเครดิต #KTAMSMARTTRADE
ร่วมติดตามเนื้อหาการเงิน-การลงทุน ทั้งบทความและวิดีโอดีๆจาก KTAM ได้ที่
ช่องทางโซเชียลมีเดีย
Facebook https://bit.ly/2C6urxv
Youtube https://bit.ly/2LYtPyz
Twitter https://bit.ly/2TzV98V
Podbeam http://bit.ly/3fajE78
Spotify https://spoti.fi/3CKOH5Z
Clubhouse https://bit.ly/3cRFGNO
Blockdit https://bit.ly/2W0yzgb